บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการจัดทำเอกสารประกอบการเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนที่จัดทำขึ้นให้มีประสิทธิ ภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาเปรียบเทียบผลการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนจากการใช้เอกสารประกอบการเรียนที่ได้จัดทำขึ้น 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนในการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนที่ได้จัดทำขึ้น
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนที่เรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 16 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่
1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2) เอกสารประกอบการเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน กิจกรรมการเรียนการสอน และแบบทดสอบหลังเรียน
3) แบบประเมินคุณภาพของเอกสารประกอบการเรียนโดยผู้เชี่ยวชาญ
4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนในการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน
วิธีดำเนินการศึกษา มีขั้นตอน ดังนี้
1) ทดสอบก่อนเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยดำเนินการก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน
2. นำเอกสารประกอบการเรียนที่จัดทำขึ้นไปใช้กับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โดยใช้ประกอบการเรียนการสอนในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ โดยให้นักเรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียน เริ่มจากศึกษาคำชี้แจง ทำแบบทดสอบก่อนเรียน และทำกิจกรรม แล้วเก็บคะแนนเป็นรายหน่วยการเรียนรู้ และเมื่อเรียนจบแต่ละหน่วยการเรียนรู้แล้วให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนของหน่วย แล้วเก็บคะแนนไว้เพื่อประมวลผลต่อไป
3) เมื่อนักเรียนเรียนจบแต่ละหน่วยการเรียนรู้แล้ว ให้นักเรียนทำแบบประเมินความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนแล้วเก็บไว้เพื่อประมวลผลต่อไป
4) ทดสอบหลังเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 (ว21101) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยดำเนินการหลังการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนจบทุกหน่วยการเรียนรู้
5) ประมวลผลการวิจัยในทุกหน่วยการเรียนรู้โดยศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบ การเรียนจากการนำผลการเรียนระหว่างเรียน เปรียบเทียบกับผลการเรียนหลังเรียน และศึกษาผลการเรียนก่อนเรียน เปรียบเทียบกับผลการเรียนหลังเรียน และประมวลผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน
วิเคราะห์และสรุปผลการศึกษา
ผลการวิจัยพบว่า 1) เอกสารประกอบการเรียนที่จัดทำขึ้นมีประสิทธิภาพเฉลี่ยร้อยละ87.33/81.20 แสดงว่าเอกสารประกอบการเรียนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 2) ผลการเรียนก่อนเรียนเปรียบเทียบกับผลการเรียนหลังเรียน ปรากฏว่าผลการเรียนหลังเรียนสูงกว่าผลการเรียนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติโดยมีค่า t เท่ากับ 37.65 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และ 3) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนจากการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ปรากฏว่ามีค่าเฉลี่ย (µ) เท่ากับ 4.56 ( เท่ากับ 0.08) ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุดเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้