บทคัดย่อ
การเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน เป็นการเรียนที่มีกิจกรรมหลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้นำความสามารถของแต่ละคนมาใช้ในการดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอน และได้มีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมตามความถนัดและความสามารถของตน การพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำของนักเรียนนั้น หนังสือส่งเสริมการอ่านสามารถช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสูงขึ้น เนื่องจากนักเรียนทุกคนได้ช่วยเหลือกันและปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน ทำให้เกิดความเข้าใจและทำให้สามารถอ่านและเขียนได้หลังจากฝึกร่วมกันแล้ว ดังนั้น ผู้ศึกษาค้นคว้าจึงพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดหนังสือส่งเสริมการอ่านที่พัฒนาขึ้น กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านยางงาม อำเภอสวี จังหวัดชุมพร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 จำนวน 7 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ หนังสือส่งเสริมการอ่าน เรื่อง คำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 ชุด หนังสือส่งเสริมการอ่าน แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 1 ชุด จำนวน 30 ข้อ ค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.22 ถึง 0.79 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.82 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านที่พัฒนาขึ้นแบบประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 4.24 ถึง 7.01 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. ชุดหนังสือส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ทำการพัฒนาขึ้น ปรากฏว่าประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) มีค่าเท่ากับ 88.81 สูงกว่าเกณฑ์และประสิทธิภาพผลลัพธ์ (E2) มีค่าเท่ากับ 83.81 ดังนั้น ประสิทธิภาพของชุดหนังสือส่งเสริมการอ่าน เท่ากับ 88.81/83.81 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. ความแตกต่างระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนหลังใช้
หนังสือส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 พบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านยางงาม จำนวน 7 คน มีความพึงพอใจต่อการพัฒนาชุดหนังสือส่งเสริมการอ่าน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมอยู่ในเกณฑ์พึงพอใจมาก ( =4.42) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 5 ข้อ และอยู่ในระดับมาก 10 ข้อ เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ หนังสือส่งเสริมการอ่านมีความยากง่ายเหมาะสมกับนักเรียน รูปภาพเหมาะสม มีสีสันสวยงาม สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้และมีการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนทำให้ทราบความก้าวหน้าในการเรียน
โดยสรุป การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนบ้านยางงาม อำเภอสวี จังหวัดชุมพร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสม นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สมควรสนับสนุนเพื่อนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ต่อไป