ชื่อเรื่อง การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่อง โรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นางสาวนงค์ลักษณ์ สุขสม ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านใหม่สามัคคี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1
ปีที่ทำการศึกษา ปีการศึกษา 2558
.
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่อง โรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาคุณภาพและศึกษาดัชนีประสิทธิผลของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่อง โรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประชากรเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านใหม่สามัคคี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1 จำนวน 12 คน ใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลังเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่อง โรคติดต่อที่ควรรู้ แบบทดสอบท้ายเล่มหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) แบบประเมินคุณภาพหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่อง โรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (Dependent t test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่อง
โรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้นทั้ง 8 เล่ม โดยภาพรวมมีประสิทธิภาพ (E1/E2)เท่ากับ 81.45/82.22 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
2. คุณภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ
เรื่องโรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 โดยภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมมาก
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่องโรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่องโรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ประถมศึกษาปีที่ 5 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของการเรียนรู้มีค่าเท่ากับ 0.634 แสดงว่านักเรียนมีความรู้หรือความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น 0.634 หรือคิดเป็นร้อยละ 63.40
5. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เรื่อง โรคติดต่อที่ควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด