ชื่องานศึกษา การพัฒนาชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียน ปนเล่น สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา นางหทัยทิพย์ ศรีคราม
ตำ¬แหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลแสนสุข สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบลแสนสุข
อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 และเพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการทางสังคมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์ด้วยชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลแสนสุข สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบลแสนสุข อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 31 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 10 เล่ม 2) แผนการจัดประสบการณ์ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 30 แผน และ 3) แบบประเมินพัฒนาการทางสังคมของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 87.35/89.73 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ผลการเปรียบเทียบพัฒนาการทางสังคมของนักเรียน ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์ด้วยชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า พัฒนาการทางสังคมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยรวมและรายด้าน ได้แก่ ด้านความอดทน ด้านความเป็นผู้นำผู้ตาม และด้านความรับผิดชอบ ภายหลังการได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยชุดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมโดยวิธีการสอนแบบเรียนปนเล่น สูงกว่าก่อนได้รับการจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01