หัวข้อการวิจัย การพัฒนาชุดกิจกรรมแบบโครงงาน ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่ม
เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
ปีการศึกษา 2557
ผู้วิจัย นายสิทธิศักดิ์ อูปแก้ว
ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาลศรีพนมมาศพิทยากร อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมแบบโครงงาน ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่ม เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานประดิษฐ์) มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมแบบโครงงาน ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่ม เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/ 80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้
ชุดกิจกรรม 3) เพื่อศึกษาทักษะกระบวนการกลุ่มของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรม
และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาลศรีพนมมาศพิทยากร อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลศรีพนมมาศ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1 ห้อง จำนวนนักเรียน 40 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมแบบโครงงาน ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่ม เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย 9 กิจกรรม
2) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานประดิษฐ์) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ ซึ่งเป็นแบบทดสอบคู่ขนาน แบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก ฉบับละ 40 ข้อ ซึ่งแบบทดสอบก่อนเรียน (ฉบับที่ 1)
มีความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.48 0.78 ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.36 0.82 และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.91 ส่วนแบบทดสอบหลังเรียน (ฉบับที่ 2) มีความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.40 0.83 และค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.36 0.64 และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.90 3) แบบประเมินทักษะกระบวนการกลุ่ม เป็นแบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนใน 6 ประเด็น ใช้เกณฑ์การให้คะแนนแบบรูบิกส์ (Rubric) ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.48 0.85 และความเชื่อมั่นของแบบประเมินทั้งฉบับ เท่ากับ 0.96 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรม เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.35 0.79
และความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับ เท่ากับ 0.90 ในกิจกรรมการเรียนการสอนตาม
แผนการจัดการเรียนรู้ ทำการทดสอบเก็บคะแนนก่อนเรียน ระหว่างเรียนและหลังเรียน
และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าทางสถิติ ซึ่งได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t test) แบบ Dependent
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมแบบโครงงาน ที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการกลุ่ม เรื่อง การประดิษฐ์
ของใช้จากเศษวัสดุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.04/81.89
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรม มีทักษะกระบวนการกลุ่ม โดยรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรม อยู่ในระดับพึงพอใจมาก