ชื่อเรื่อง การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ของเล่นของใช้แสนรัก
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใน)
ผู้วิจัย ธัญญ์นภัส ธนะโภคินชวนันท์
ปีการศึกษา 2556
บทคัดย่อ
การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่องของเล่นของใช้แสนรัก กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใน) มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ของเล่นของใช้ แสนรัก กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใน) ตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ของเล่นของใช้แสนรัก กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใน) และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ของเล่นของใช้แสนรัก กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใน) ประชากรที่ใช้ใน การวิจัย คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใน) อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ ปีการศึกษา 2556 จำนวน 3 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 109 คน นักเรียนมีความสามารถคล้ายคลึงกัน และมีผลสัมฤทธิ์ไม่แตกต่างกัน ตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 ของโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใน) อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ ปีการศึกษา 2556 จำนวน 1 ห้องเรียน
มีนักเรียน 35 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)โดยใช้ห้องเรียน
เป็นหน่วยการสุ่ม ด้วยการจับสลากมา 1 ห้องเรียน จาก 3 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่องของเล่นของใช้แสนรักกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ร่วม เรื่อง ของเล่นของใช้แสนรักกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ของเล่นของใช้แสนรักกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.71/82.28 ซึ่งเป็นไปตาม
เกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้
ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ของเล่นของใช้แสนรักกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผน
การจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เรื่อง ของเล่นของใช้แสนรัก กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด