ความคิด (Mind Mapping ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดย นางวราลักษณ์ สิทธิจันทร์
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ ผังความคิด (Mind Mapping) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้ศึกษา วราลักษณ์ สิทธิจันทร์
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2558
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ ผังความคิด (Mind Mapping) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังความคิด(Mind Mapping)ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังความคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ
3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังความคิดที่ผู้รายงานสร้างขึ้น
กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านเมืองโพธิ์ อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 23 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบด้วย 1) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังความคิด จำนวน 12 เรื่อง 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะจำนวน 12 แผน ใช้เวลาการทดลอง 12 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ที่มีความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.25- 0.77 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.23 - 0.76 และค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.89 และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังความคิด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ ผังความคิด (Mind Mapping) เท่ากับ 88.88 / 86.37 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80 / 80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังความคิด (Mind Mapping) มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7844 หรือร้อยละ 78.44 ซึ่งแสดงว่าการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังความคิด (Mind Mapping) นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 78.44
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังความคิด (Mind Mapping) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป การใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ ผังความคิด (Mind Mapping)ในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจการอ่านภาษาอังกฤษและมีความพึงพอใจการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการใช้ผังความคิดสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้