ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้รายงาน นางรัตติกาล จารุจารีต

หน่วยงาน โรงเรียนบึงกาฬ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 จำนวน 46 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่าง แบบเจาะจง (Purposive Sampling) และเป็นห้องเรียนที่ผู้ศึกษาปฏิบัติหน้าที่เป็นครูผู้สอนรายวิชาคณิตศาสตร์ เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาครั้งนี้มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 7 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 14 แผน แผนทดสอบก่อนเรียนและ หลังเรียน จำนวน 2 แผน รวมทั้งหมด 16 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ โดยครอบคลุมเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัส ค22101 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พุทธศักราช 2551 โดยแบบทดสอบมีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.40 – 0.76 มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.24 – 0.72 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.84 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยจัดทำเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มี 4 ด้าน คือ ลักษณะรูปเล่ม เนื้อหาสาระการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล จำนวน 16 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐาน ใช้ t – test (แบบ Dependent Samples)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 79.81/78.84 สูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้

2. นักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.5084 หรือคิดเป็นร้อยละ 50.84

4. นักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.76

แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น และเหมาะสมที่จะเป็นแนวทางในการนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมกาเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการศึกษาและมีประสิทธิภาพต่อไป

โพสต์โดย TEAW : [28 ก.ย. 2559 เวลา 14:51 น.]
อ่าน [3902] ไอพี : 223.206.241.49
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,289 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)ปัจจัยด้านขวัญของข้าราชการครูปฏิบัติการสอนฯ
(ก.ค.ศ.)ปัจจัยด้านขวัญของข้าราชการครูปฏิบัติการสอนฯ

เปิดอ่าน 23,347 ครั้ง
คลิปดรัมเมเยอร์โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร พลิ้วสุด ๆ ยอดวิวหลักแสนแล้ว
คลิปดรัมเมเยอร์โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร พลิ้วสุด ๆ ยอดวิวหลักแสนแล้ว

เปิดอ่าน 22,919 ครั้ง
วิธีเก็บไข่ให้ได้นานๆ
วิธีเก็บไข่ให้ได้นานๆ

เปิดอ่าน 13,043 ครั้ง
เชิญชวนสังเกตุปรากฏการณ์ธรรมชาติ สุริยุปราคา 26 มกราคม 2552
เชิญชวนสังเกตุปรากฏการณ์ธรรมชาติ สุริยุปราคา 26 มกราคม 2552

เปิดอ่าน 9,932 ครั้ง
หายใจผิด ตัวการทำลายผิว
หายใจผิด ตัวการทำลายผิว

เปิดอ่าน 14,745 ครั้ง
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น

เปิดอ่าน 18,537 ครั้ง
หัวเผือก-หัวมัน กินเล่น ๆ แต่ได้ประโยชน์จริง
หัวเผือก-หัวมัน กินเล่น ๆ แต่ได้ประโยชน์จริง

เปิดอ่าน 10,887 ครั้ง
9 ทริคดี ๆ เพิ่มความจำ อัพสมองให้สดใส
9 ทริคดี ๆ เพิ่มความจำ อัพสมองให้สดใส

เปิดอ่าน 23,866 ครั้ง
ลายมือแบบไหนคือ "ลายมือเสน่ห์นิยม"
ลายมือแบบไหนคือ "ลายมือเสน่ห์นิยม"

เปิดอ่าน 11,389 ครั้ง
5 วิธีชวนขับรถประหยัดน้ำมัน
5 วิธีชวนขับรถประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 12,593 ครั้ง
ลีมูซีนรถประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ
ลีมูซีนรถประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ

เปิดอ่าน 16,431 ครั้ง
กำแพงกั้นเสียง
กำแพงกั้นเสียง

เปิดอ่าน 419,914 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้

เปิดอ่าน 13,766 ครั้ง
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ตำแหน่งครู)
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ตำแหน่งครู)

เปิดอ่าน 30,612 ครั้ง
วิธีการเรียนรู้ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ
วิธีการเรียนรู้ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ

เปิดอ่าน 17,038 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
เปิดอ่าน 24,548 ครั้ง
“รังผึ้ง” นวัตกรรมใหม่…สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย
“รังผึ้ง” นวัตกรรมใหม่…สามารถเก็บน้ำผึ้งโดยไม่ต้องกวนผึ้งเลย
เปิดอ่าน 10,017 ครั้ง
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
เปิดอ่าน 13,096 ครั้ง
เอาไงดี? ...หางานใหม่แล้วค่อยลาออก กับ ลาออกแล้วค่อยหางานใหม่ !!
เอาไงดี? ...หางานใหม่แล้วค่อยลาออก กับ ลาออกแล้วค่อยหางานใหม่ !!
เปิดอ่าน 26,434 ครั้ง
Youtube เผย 10 อันดับคลิปที่มีผู้เข้าชมมากสุดปี 2011
Youtube เผย 10 อันดับคลิปที่มีผู้เข้าชมมากสุดปี 2011

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ