ชื่อเรื่อง รายงานการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ผู้ศึกษา นางสาวอนงค์ หมอกใหม่
ตำแหน่งครูวิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนชุมชนบ้านพร้าวหนุ่ม
อำเภอแม่แจ่ม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว ชั้นประถมศึกษาปีที่1 และเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว ประชากรเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านพร้าวหนุ่ม อำเภอแม่แจ่ม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จากความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพของกระบวนการและผลลัพธ์ หรือ E1/E2 ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 วิเคราะห์คะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยเทียบกับเกณฑ์การให้คะแนน วิเคราะห์คะแนนจากการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและคะแนนหลังเรียนด้วยค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 82.93/85.59 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านพร้าวหนุ่ม พบว่าการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมสระเสียงสั้นและเสียงยาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยก่อนเรียน 7.18 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 35.88 ส่วนคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 17.12 คะแนน คิดเป็นร้อยละ85.59 โดยคะแนนที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.78 คิดเป็นร้อยละ 49.71 ของการทดสอบก่อนเรียน แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน