ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง การอ่าน การเขียน
คำยาก กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษา สมสมร ภิรมย์รักษ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนบ่อเกดวิจิตรวิทยา อำเภอสะเดา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3
บทคัดย่อ
ภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์เป็นอย่างมาก การอ่านและการเขียนคำเป็นส่วนสำคัญในการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อให้ผู้เรียนอ่านออกเขียนได้ตามวุฒิภาวะของแต่ละบุคคล ดังนั้นผู้ศึกษาค้นคว้าจึงได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ่อเกดวิจิตรวิทยา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 แผน เวลา 20 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.43 ถึง 0.69 ค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ .86 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.75 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ประสิทธิภาพ ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบสมมติฐานด้วย t test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏ ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 84.33/91.98 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.7300 หมายความว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 73.00
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรม การเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.42 , S.D. = 0.63)
โดยสรุป ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียนคำยากด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสมช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สามารถทำให้นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนภาษาไทยเป็นอย่างมาก ดังนั้นครูและผู้ที่สนใจสามารถนำไปใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและการเขียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ