ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเร

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI

เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ผู้วิจัย : พรทิพย์ ภู่ศรีประสาท

ปีการศึกษา : 2558

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ระยะที่ 2 การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบ โดยนำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก จำนวน 32 คน ใช้เวลาในการทดลอง 1 ภาคเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบทดสอบความสามารถในการอ่านตีความ วิเคราะห์ข้อมูล เปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการอ่านตีความ ก่อนและหลังการทดลอง โดยใช้สถิติทดสอบค่า t (t – test for dependent sample)

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ โดยการจัดการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นจัดกลุ่มและนำเข้าสู่บทเรียน 2) ขั้นนำเสนอบทเรียน 3) ขั้นศึกษากลุ่มย่อย 4) ขั้นทดสอบกลุ่มย่อย 5) ขั้นการให้คะแนนและความสำเร็จของกลุ่ม 6) กิจกรรมเสนอแนะ

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 32 คน ผลสัมฤทธิ์ทางทักษะการอ่านตีความของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05

3. ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยมีเทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค TAI เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตีความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย Kwan : [20 ก.ย. 2559 เวลา 15:22 น.]
อ่าน [67785] ไอพี : 118.173.21.149
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 36,800 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ

เปิดอ่าน 18,736 ครั้ง
แนะนำ 7 รถยนต์ปอร์เช่ Porsche ระดับพรีเมียมที่ทรงพลังมากที่สุด
แนะนำ 7 รถยนต์ปอร์เช่ Porsche ระดับพรีเมียมที่ทรงพลังมากที่สุด

เปิดอ่าน 60,495 ครั้ง
โลกนี้มีกี่ภาษา
โลกนี้มีกี่ภาษา

เปิดอ่าน 11,775 ครั้ง
ชมหรือยัง? สถานการณ์ การศึกษาไทย 2557 (The State of Thai Education 2014)
ชมหรือยัง? สถานการณ์ การศึกษาไทย 2557 (The State of Thai Education 2014)

เปิดอ่าน 22,774 ครั้ง
เกมส์ทําอาหาร
เกมส์ทําอาหาร

เปิดอ่าน 9,507 ครั้ง
ผลวิจัยใหม่พบ "ไวไฟ" อันตรายต่อเด็กกว่าผู้ใหญ่
ผลวิจัยใหม่พบ "ไวไฟ" อันตรายต่อเด็กกว่าผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 22,578 ครั้ง
ทฤษฎี 3 องค์ประกอบ
ทฤษฎี 3 องค์ประกอบ

เปิดอ่าน 5,592 ครั้ง
"ไข่มดแดง" โปรตีนสูง-ไขมันต่ำ กรมอนามัยแนะ เลี่ยงกินสุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงท้องร่วง
"ไข่มดแดง" โปรตีนสูง-ไขมันต่ำ กรมอนามัยแนะ เลี่ยงกินสุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงท้องร่วง

เปิดอ่าน 19,681 ครั้ง
การศึกษาไทย กระบวนทัศน์ที่หลงทาง
การศึกษาไทย กระบวนทัศน์ที่หลงทาง

เปิดอ่าน 1,188 ครั้ง
5 ทำเลคอนโดในกรุงเทพมหานครที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2025
5 ทำเลคอนโดในกรุงเทพมหานครที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2025

เปิดอ่าน 18,573 ครั้ง
โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ
โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 790 ครั้ง
ตอบข้อสงสัย ยื่นภาษีได้ถึงวันไหน ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ตอบข้อสงสัย ยื่นภาษีได้ถึงวันไหน ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

เปิดอ่าน 6,222 ครั้ง
ปวดคอ แบบไหนอันตราย
ปวดคอ แบบไหนอันตราย

เปิดอ่าน 19,409 ครั้ง
Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม
Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม

เปิดอ่าน 4,529 ครั้ง
 ไขมันในเลือดสูง ให้กินกระเทียมสด และ หอมหัวใหญ่ จริงหรือ ?
ไขมันในเลือดสูง ให้กินกระเทียมสด และ หอมหัวใหญ่ จริงหรือ ?

เปิดอ่าน 71,233 ครั้ง
วิธีตอนกิ่งมะละกอ ให้ผลผลิตเร็ว ต้นเตี้ยไม่กลัวลม
วิธีตอนกิ่งมะละกอ ให้ผลผลิตเร็ว ต้นเตี้ยไม่กลัวลม
เปิดอ่าน 20,970 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
เปิดอ่าน 49,108 ครั้ง
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ
เปิดอ่าน 50,048 ครั้ง
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
เปิดอ่าน 12,897 ครั้ง
อาหารที่ทำให้ดูสวย
อาหารที่ทำให้ดูสวย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ