ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการสอน PAP โดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการสอน PAP โดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษและคุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาสภาพการเรียนการสอนโดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษและคุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอน PAP โดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษและคุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอน PAP โดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษและคุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5และ (4) เพื่อประเมินผลและรับรองรูปแบบการสอน PAP โดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษและคุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างในชั้นเรียนคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purpose Sampling) จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน จำนวน 11 แผน 19 ชั่วโมง แบบฝึกทักษะ 5 เล่ม แบบทดสอบวัดทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และแบบประเมินคุณลักษณะจิตอาสา การเก็บรวบรวมข้อมูล จากการสอบถามความคิดเห็นของรูปแบบการสอนโดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัย จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญด้วยตนเอง การวิเคราะห์ข้อมูล จากการสอบถามและแบบประเมิน สถิติที่ใช้ ความเรียง, ร้อยละ, , S.D., การวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานจากแหล่งข้อมูลเอกสารสำคัญคือ แนวคิดในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน แนวความคิดของการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร การเรียนรู้ด้วยโครงงาน แนวคิดและทฤษฎีในการสร้างเสริมจิตพิสัย

2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอน PAP โดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษและคุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นซึ่งประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับมาก

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอน PAP โดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษและคุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

3.1 คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น ผลการประเมินคุณภาพภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.0, S.D.= 0.33)

3.2 ผลทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษสามารถอธิบายได้ดังนี้

ทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมโครงงานทั้ง 4 ทักษะ คือ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่านและทักษะการเขียน มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นทุกทักษะ ซึ่งผลต่างของค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นแต่ละด้านระหว่างร้อยละ 13.80 – 19.50 ทักษะการเขียนมีค่าผลต่างของค่าเฉลี่ยสูงที่สุดโดยมีผลต่างของค่าเฉลี่ยร้อยละ 19.50 ส่วนทักษะการอ่าน มีค่าผลต่างของค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดโดยมีผลต่างของค่าเฉลี่ยร้อยละ 13.80 เมื่อพิจารณาเป็นรายบุคคล พบว่านักเรียนมีการพัฒนาทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3.3 คุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยวสามารถอธิบายได้ดังนี้

ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านจิตอาสาของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานโดยครูประเมิน ทั้ง 5 โครงงาน พบว่า ระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านจิตอาสา อยู่ในระดับดี เพื่อพิจารณารายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ข้อ 1.1 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.38 รองลงมา คือ ข้อ 2.1 เท่ากับ 2.96 และต่ำที่สุด คือ ข้อ 1.2 มีค่าเฉลี่ย 2.67 พบว่านักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านจิตอาสาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

4. ประเมินผลและรับรองรูปแบบการสอน PAP โดยใช้โครงงานเป็นฐานตามหลักการพัฒนาจิตพิสัยเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษและคุณลักษณะจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64, S.D. = 0.22)

คำสำคัญ: (1) โครงงาน (2) ทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ (3) คุณลักษณะจิตอาสา

โพสต์โดย poona12 : [19 ก.ย. 2559 เวลา 21:25 น.]
อ่าน [5283] ไอพี : 115.87.180.81
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 40,542 ครั้ง
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 57,061 ครั้ง
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?

เปิดอ่าน 35,027 ครั้ง
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ

เปิดอ่าน 15,682 ครั้ง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับดวงจันทร์
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับดวงจันทร์

เปิดอ่าน 19,899 ครั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย

เปิดอ่าน 14,511 ครั้ง
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร

เปิดอ่าน 17,676 ครั้ง
เตือนภัย ระวังไวรัสบน Facebook กำลังระบาด
เตือนภัย ระวังไวรัสบน Facebook กำลังระบาด

เปิดอ่าน 17,449 ครั้ง
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!

เปิดอ่าน 23,754 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน

เปิดอ่าน 9,607 ครั้ง
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู
นี่ล่ะ..สังคมแรกของหนู

เปิดอ่าน 18,244 ครั้ง
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย

เปิดอ่าน 17,388 ครั้ง
เคล็ดลับเด็ดๆ ในการป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างได้ผล
เคล็ดลับเด็ดๆ ในการป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างได้ผล

เปิดอ่าน 8,438 ครั้ง
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 46,312 ครั้ง
โกดะ ทาเคชิ ไจแอนท์ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โกดะ ทาเคชิ ไจแอนท์ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน

เปิดอ่าน 7,855 ครั้ง
7 วิธี ใช้เงินอย่างประหยัดเมื่อไปเรียนต่างประเทศ
7 วิธี ใช้เงินอย่างประหยัดเมื่อไปเรียนต่างประเทศ

เปิดอ่าน 9,520 ครั้ง
ดื่มชาดำหรือเขียวประจำวันละ3ถ้วย ปัดเป่าอัมพาตไกลร้อยละ21
ดื่มชาดำหรือเขียวประจำวันละ3ถ้วย ปัดเป่าอัมพาตไกลร้อยละ21
เปิดอ่าน 13,996 ครั้ง
วันตรุษจีน
วันตรุษจีน
เปิดอ่าน 19,310 ครั้ง
จุฬาฯวิจัยสารสกัดดอกสะเดา มีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
จุฬาฯวิจัยสารสกัดดอกสะเดา มีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
เปิดอ่าน 14,499 ครั้ง
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 85,762 ครั้ง
กระแสอะไรที่จะช่วยปรับรูปแบบโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษาของไทย โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
กระแสอะไรที่จะช่วยปรับรูปแบบโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษาของไทย โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ