บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงทดลองแบบ One Group Pre-test Post-test Designs มีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหาร เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มเป้าหมายเป็น นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนบ้านหนองคัน ตำบลธาตุทอง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 2 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 17 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดอง ได้แก่ คู่มือครู แผนการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประกอบการใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน จำนวน 8 แผน ใช้เวลาเรียน 16 ชั่วโมง และชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 ชุด 2) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณและการหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบย่อยประจำชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน จำนวน 8 ชุด ชุดละ 10 ข้อ รวม 80 ข้อ และ3 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าเฉลี่ย
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.76/84.12 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและ หลังเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วนโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีความพึงพอใจด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก ด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ในระดับมากและด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วนอยู่ในระดับมาก
โดยสรุป ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะการคูณและการหารเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ผลการวิจัยสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในสาระวิชาอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป