ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านเชิงวิเคราะห์ที่ส่งเสริมความพร้อม ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ของนักเ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านเชิงวิเคราะห์ ที่ส่งเสริมความพร้อม

ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย ราตรี พิชัยพงค์

ปีที่วิจัย 2557

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านเชิงวิเคราะห์ ที่ส่งเสริมความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อประเมินรูปแบบที่สร้างขึ้น โดยประเมินจากผลการนำไปทดลองใช้ในสภาพการเรียนจริง เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของผู้เรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบ เปรียบเทียบความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของผู้เรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบ และศึกษาความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีแบบแผนการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว วัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest-Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 โรงเรียนครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 40 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยของการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านเชิงวิเคราะห์ ที่ส่งเสริมความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ แบบวัดความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านเชิงวิเคราะห์ ที่ส่งเสริมความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยด้วยค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent)

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านเชิงวิเคราะห์ ที่ส่งเสริมความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีชื่อเรียกว่า “SPARE model” ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระความรู้และสิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง สิ่งสนับสนุน และเงื่อนไขการนำรูปแบบการเรียนการสอนไปใช้ ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การสำรวจพฤติกรรมการอ่าน (Surveying: S) 2) การวางโครงการเรียน (Planning: P) 3) การเตรียมความพร้อมผู้เรียน (Arranging: A) 4) การปฏิบัติการอ่าน (Reading: R) 5) การประเมินผลการอ่าน (Evaluating: E)

2. ผลการประเมินรูปแบบจากผลการนำไปทดลองใช้ในสภาพการเรียนจริง พบว่า 1) คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของกลุ่มตัวอย่าง หลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านเชิงวิเคราะห์ ที่ส่งเสริมความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 2) คะแนนเฉลี่ยความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเองของกลุ่มตัวอย่าง หลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการอ่านเชิงวิเคราะห์ ที่ส่งเสริมความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตนเอง สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ผู้เรียนกลุ่มตัวอย่างมากกว่าร้อยละ 80 เห็นด้วยกับการเรียนตามรูปแบบ ยกเว้นเรื่องความพอใจที่ไม่ต้องทำตามสิ่งที่ครูบังคับให้ทำ มีผู้เรียนเห็นด้วยร้อยละ 62.50

โพสต์โดย ริน : [19 ก.ย. 2559 เวลา 11:13 น.]
อ่าน [5085] ไอพี : 27.55.75.246
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,667 ครั้ง
4 พัฒนาการที่แม่ควรส่งเสริม
4 พัฒนาการที่แม่ควรส่งเสริม

เปิดอ่าน 17,618 ครั้ง
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน

เปิดอ่าน 9,036 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 64,491 ครั้ง
Verb Tenses (Present Tenses )
Verb Tenses (Present Tenses )

เปิดอ่าน 80,477 ครั้ง
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ

เปิดอ่าน 23,965 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ

เปิดอ่าน 14,341 ครั้ง
5 สัญญาณโรคร้าย ที่ชายไม่ควรเมิน
5 สัญญาณโรคร้าย ที่ชายไม่ควรเมิน

เปิดอ่าน 18,779 ครั้ง
ขจัดไขมันบนพุงด้วยการแขม่วท้อง
ขจัดไขมันบนพุงด้วยการแขม่วท้อง

เปิดอ่าน 60,704 ครั้ง
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่

เปิดอ่าน 11,314 ครั้ง
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด

เปิดอ่าน 22,810 ครั้ง
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์

เปิดอ่าน 42,527 ครั้ง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดชื่อเดือนทั้ง 12 เดือน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดชื่อเดือนทั้ง 12 เดือน

เปิดอ่าน 10,006 ครั้ง
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้

เปิดอ่าน 20,880 ครั้ง
4 สมุนไพร สยบโรค
4 สมุนไพร สยบโรค

เปิดอ่าน 13,730 ครั้ง
ทราบหรือไม่ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง?
ทราบหรือไม่ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 15,556 ครั้ง
กล้วยป่า
กล้วยป่า
เปิดอ่าน 14,383 ครั้ง
เคล็ดลับ 10 ข้อให้คุณดูสดใสขึ้นทันตา
เคล็ดลับ 10 ข้อให้คุณดูสดใสขึ้นทันตา
เปิดอ่าน 14,164 ครั้ง
8 วิธีสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ
8 วิธีสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ
เปิดอ่าน 15,565 ครั้ง
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
เปิดอ่าน 10,911 ครั้ง
คลิปว่อนยูทูบ แฉทำไมเทคโนโลยี "3G"ประเทศไทยล้าหลัง"ลาว" !!
คลิปว่อนยูทูบ แฉทำไมเทคโนโลยี "3G"ประเทศไทยล้าหลัง"ลาว" !!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ