ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การใช้รูปแบบการบริหารแบบ 4 D ดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีค่านิยมหลักของคนไทย 12ประการ

เรื่อง การใช้รูปแบบการบริหารแบบ 4 D ดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีค่านิยมหลักของคนไทย 12ประการ

ชื่อผู้รายงาน นางสาวกาญจนา เดชสม รองผู้อำนวยการโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์

ปีที่รายงาน 2558

ความเป็นมา

ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2545 มาตรา 7 กล่าวถึง ความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษาว่า ในกระบวนการเรียนรู้ ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีความภาคภูมิใจความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริม ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมของชาติ การกีฬา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและความรู้อันเป็นสากลตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จักพึ่งตนเอง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ใฝ่รู้ และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง การปลูกฝังและพัฒนานักเรียนให้มีลักษณะอันพึงประสงค์ตามความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษา เป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้บทบาทหน้าที่ความเป็นพลเมืองและวิถีประชาธิปไตย อันได้แก่ คารวะธรรม สามัคคีธรรม ปัญญาธรรม รวมทั้งหลักธรรมาภิบาล การมีจิตอาสาและพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ มุ่งเน้นให้นักเรียนคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมตามบทบาทและหน้าที่ของตน

รัฐบาลปัจจุบันจึงกำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติข้างต้นเพื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เข้มแข็ง โดยมุ่งสร้างคนในชาติให้มีค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์จึงได้นำนโยบายมาใช้ในการพัฒนานักเรียนให้มีลักษณะอันพึงประสงค์ตามความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษา

โดยใช้รูปแบบการบริหารแบบ 4 D ดำเนินกิจกรรม เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

วัตถุประสงค์

1. เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

2. เพื่อบูรณาการการส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย12 ประการกับการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา

กิจกรรม/วิธีการ/ขั้นตอนสำคัญ

1. การกระจายอำนาจ (Decentralization : D1) เป็นการมอบอำนาจแบ่งงาน หน้าที่ตามภาระงานในการดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เป็นการกระจายอำนาจตามลำดับความรับผิดชอบไปสู่บุคลากรเป้าหมาย โดยอาศัยหลักธรรมาภิบาล (Good governance) ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบหลักความคุ้มค่า และหลักการของการใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Base Management : SBM) ซึ่งผลผลิตที่ได้รับคือ ได้ทีมงาน (Team)

2. การพัฒนา (Development : D2) เป็นการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ

ดำเนินกิจกรรมตามแผนที่กำหนดไว้ให้แก่คณะกรรมการแต่ละชุดด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น การสัมมนา

การศึกษาดูงาน หรือพานักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม โดยอาศัยหลักการและกระบวนการการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM.)

3. การปฏิบัติ (Do : D3) เป็นการที่ทีมงานในแต่ละทีมลงมือปฏิบัติตามโครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย โดยจะต้องอาศัยหลักการปฏิบัติเชิงคุณภาพตามวงจรคุณภาพของเดมมิ่ง (Deming Circle : PDCA)

P : Plan การวางแผน

1) ประชุมครู ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อร่วมกัน รับทราบแนวนโยบาย เป้าหมาย ในการดำเนินงาน วางแผนร่วมกัน ชี้แจงวัตถุประสงค์ และสร้างความตระหนักในการดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

2) วางแผนการดำเนินงาน มอบหมายผู้รับผิดชอบ

3) จัดทำโครงการ หรือกิจกรรมเพื่อสนองนโยบาย

D :DO ปฏิบัติตามแผน

ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยบูรณาการกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การผนวกในกิจกรรมตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านสื่อ เพลง วีดีทัศน์ กิจกรรมในและนอกห้องเรียน ฯลฯ

C: Check ตรวจสอบ

นิเทศติดตามการดำเนินงาน แบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะก่อนดำเนินการ ระหว่างดำเนินการ หลังดำเนินการ มีการสรุปผลและรายงานความคืบหน้าในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้ผู้บริหารทราบอย่างต่อเนื่อง

A : Act ดำเนินการปรับปรุงให้เหมาะสม

1. ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ให้ครูและนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนทราบอย่างต่อเนื่อง

2. มีการปรับปรุงแผนฯ โครงการ กิจกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

3. สร้างมาตรการเร่งรัด หากมีโครงการ/กิจกรรมที่ดำเนินการช้ากว่าที่กำหนด และตรวจสอบ

คุณภาพอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ

4. การกำกับติดตาม (Direction : D4) เป็นการประเมินเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาให้ภาระงานที่ทีมงานดำเนินการอยู่มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสูงสุดโดยอาศัยหลักการและกระบวนการของ ระบบ

วงจรคุณภาพ P-D-C-A (Deming Circle) กระบวนการนิเทศ (Supervision) โดยใช้หลักการการนิเทศแบบ

กัลยาณมิตร

ผลสำเร็จ

1. โรงเรียนจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

2. ครูสามารถเชื่อมโยงการขับเคลื่อนค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ กับการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา

3. นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 97.07

ปัจจัยความสำเร็จ

1. ครู ผู้ปกครอง ชุมชน ให้ความร่วมมือในการส่งเสริมพัฒนาค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

2. มีการนิเทศติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

โพสต์โดย คนล่าฝัน : [16 ก.ย. 2559 เวลา 12:01 น.]
อ่าน [5752] ไอพี : 61.7.218.94
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,000 ครั้ง
กระบวนท่าแก้ปวดหลัง
กระบวนท่าแก้ปวดหลัง

เปิดอ่าน 16,772 ครั้ง
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด

เปิดอ่าน 15,846 ครั้ง
การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ
การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ

เปิดอ่าน 13,621 ครั้ง
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ

เปิดอ่าน 9,173 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 45 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 45 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 19,438 ครั้ง
เชื่อทางช้างเผือก มีดาวเหมือนโลกนับร้อยดวง
เชื่อทางช้างเผือก มีดาวเหมือนโลกนับร้อยดวง

เปิดอ่าน 19,281 ครั้ง
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ

เปิดอ่าน 11,652 ครั้ง
ยืดอายุด้วยการเดิน
ยืดอายุด้วยการเดิน

เปิดอ่าน 9,913 ครั้ง
เตือนคนไทยระวัง "โรคลมร้อน"
เตือนคนไทยระวัง "โรคลมร้อน"

เปิดอ่าน 12,521 ครั้ง
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009

เปิดอ่าน 9,935 ครั้ง
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว

เปิดอ่าน 8,690 ครั้ง
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 17,516 ครั้ง
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ

เปิดอ่าน 21,925 ครั้ง
ขั้นตอนปลูกแก่นตะวัน ปลูกง่าย โตไว ราคาดี
ขั้นตอนปลูกแก่นตะวัน ปลูกง่าย โตไว ราคาดี

เปิดอ่าน 11,649 ครั้ง
เอาไฟฉายส่องตา แก้เมาเครื่องบินได้
เอาไฟฉายส่องตา แก้เมาเครื่องบินได้

เปิดอ่าน 16,260 ครั้ง
เด็กๆ นี่มีเสน่ห์ คนนี้ชอบพูด NO น่ารักดี
เด็กๆ นี่มีเสน่ห์ คนนี้ชอบพูด NO น่ารักดี
เปิดอ่าน 42,245 ครั้ง
โปรแกรมฝึกอ่านอังกฤษออนไลน์ใครก็เรียนได้ไม่เสียสตางค์กวดวิชา
โปรแกรมฝึกอ่านอังกฤษออนไลน์ใครก็เรียนได้ไม่เสียสตางค์กวดวิชา
เปิดอ่าน 67,022 ครั้ง
การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
เปิดอ่าน 23,898 ครั้ง
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ
เปิดอ่าน 10,501 ครั้ง
"ส้มตำ" มีมานานหรือยัง?
"ส้มตำ" มีมานานหรือยัง?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ