ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนางานวิชาการของโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์

ชื่อเรื่อง การบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนางานวิชาการของโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์)

ผู้วิจัย นางนัยนา อังคุตรานนท์

ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) เทศบาลเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ปีวิจัย ปีการศึกษา 2557

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัยคือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการบริหารงานวิชาการ ของครูผู้สอนในโรงเรียน 2) เพื่อสร้างแนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนางานวิชาการ ของโรงเรียน และ 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้แนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนางานวิชาการ ของโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) ประชากรเป็นผู้ให้ข้อมูลในการวิจัยคือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 13 คน ครูผู้สอนในโรงเรียน จำนวน 45 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามสภาพปัญหาการบริหารงานวิชาการมีค่าความเชื่อมั่น .94 แนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนางานวิชาการ ของโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) แบบตรวจสอบเพื่อประเมินความเหมาะสมของแนวทางการบริหารสถานศึกษา มีค่าความเชื่อมั่น .94 แบบประเมินความสามารถในการบริหารงานวิชาการ มีค่าความเชื่อมั่น .92 แบบประเมินมาตรฐานการศึกษา แบบประเมินประสิทธิผลของแนวทางการบริหารสถานศึกษา มีค่าความเชื่อมั่น .92 และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารโรงเรียนด้วยแนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มีค่าความเชื่อมั่น .92 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และสถิติการบรรยาย

สรุปผลการวิจัย

1. สภาพปัญหาการบริหารงานวิชาการของครูผู้สอนในโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) พบว่า โดยรวมและรายด้านมีสภาพปัญหาการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับปานกลาง

2. แนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนางานวิชาการ ของโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) มีองค์ประกอบ 5 ด้าน คือด้านการบริหารหลักสูตร (Curriculum Management) ด้านการบริหารการจัดการเรียนรู้ (Learning Management) ด้านการบริหารการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ (Evaluation Management) ด้านการบริหารการนิเทศภายใน (Supervision Management) และด้านการบริหารการประกันคุณภาพภายใน (Quality Assurance Management) โดยผลการตรวจสอบเพื่อประเมินความเหมาะสมของแนวทางโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า โดยรวมแนวทางการบริหารสถานศึกษามีความเหมาะสมและนำไปปฏิบัติได้อยู่ในระดับมากที่สุด และทุกด้านของแนวทางมีความเหมาะสมและนำไปปฏิบัติได้อยู่ในระดับมากที่สุด

3. การทดลองใช้แนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนางานวิชาการ ของโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) พบว่า โดยรวมครูผู้สอนมีความสามารถในการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินมาตรฐานการศึกษา อยู่ในระดับดีมาก ได้รับรองมาตรฐานการศึกษา มีคะแนนเฉลี่ยที่ได้ 90.27 แนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานมีประสิทธิผล อยู่ในระดับมากที่สุด และทั้งครูผู้สอนและผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียนด้วยแนวทางการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนางานวิชาการ ของโรงเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานในการพัฒนาคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์)

ผู้วิจัย นางนัยนา อังคุตรานนท์

ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) เทศบาลเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ปีวิจัย ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน บริบทและสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับวิธีการจัดการเรียนรู้ 2) พัฒนารูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน และ 4) ประเมินรูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ใน การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) ก่อนนำออกเผยแพร่ต่อไป ประชากรที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ครูผู้สอน จำนวน 44 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 533 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 533 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ รูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน แบบตรวจสอบเพื่อประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน มีค่าความเชื่อมั่น .93 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของครูผู้สอน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน มีค่าความเชื่อมั่น .94 แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน มีค่าความเชื่อมั่น .95 และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการบริหารโรงเรียน มีค่าความเชื่อมั่น .94 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และสถิติการบรรยาย

สรุปผลการวิจัย

1. การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของการจัดการเรียนรู้ พบว่า ครูผู้สอนต้องการให้ผู้บริหารส่งเสริมและพัฒนาวิธีการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน

2. รูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า SCPCEL Model มีองค์ประกอบ 6 ด้าน คือ ด้านการมีส่วนร่วม (Participating : P) ด้านการสร้างความรู้ (Constructing : C) ด้านการจัดการเรียนรู้ (Learning : L) ด้านการพัฒนาคุณลักษณะ (Characterizing : C) ด้านการประเมินผล (Evaluating : E) และด้านความพอใจ (Satisfying : S) ผลการตรวจสอบความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ทั้งรูปแบบและองค์ประกอบมีความเหมาะสมและนำไปใช้ในการบริหารโรงเรียนได้ อยู่ในระดับมากที่สุด

3. การทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) พบว่า นักเรียนในทุกชั้นเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนปีการศึกษา 2558 สูงกว่าปีการศึกษา 2557 คิดเป็นร้อยละ 7.13 และนักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ อยู่ในระดับดีมาก

4. การประเมินรูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 5 (กระดาษไทยอนุเคราะห์) ก่อนนำออกเผยแพร่ พบว่า ครูมีความสามารถในการจัด การเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด และผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย จั๊ม : [8 ก.ย. 2559 เวลา 09:42 น.]
อ่าน [64956] ไอพี : 118.175.170.212
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,973 ครั้ง
สุดซึ้ง หมาช่วยหมา ที่กำลังลอยคออยู่บนเรือ
สุดซึ้ง หมาช่วยหมา ที่กำลังลอยคออยู่บนเรือ

เปิดอ่าน 13,359 ครั้ง
รู้จักยัง...Hate Speech คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? และเราจะรับมือได้อย่างไร?
รู้จักยัง...Hate Speech คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? และเราจะรับมือได้อย่างไร?

เปิดอ่าน 177,189 ครั้ง
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน

เปิดอ่าน 22,311 ครั้ง
"ข่าลิง" คืออะไร?
"ข่าลิง" คืออะไร?

เปิดอ่าน 15,033 ครั้ง
5 สัญญาณโรคร้าย ที่ชายไม่ควรเมิน
5 สัญญาณโรคร้าย ที่ชายไม่ควรเมิน

เปิดอ่าน 15,002 ครั้ง
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ตำแหน่งครู)
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ตำแหน่งครู)

เปิดอ่าน 26,970 ครั้ง
สพฐ.เดินหน้านโยบายเร่งด่วน 6 เรื่อง
สพฐ.เดินหน้านโยบายเร่งด่วน 6 เรื่อง

เปิดอ่าน 8,948 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา...เพื่ออะไร ?
ปฏิรูปการศึกษา...เพื่ออะไร ?

เปิดอ่าน 6,144 ครั้ง
ฝึกกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บข้อเข่าจากกีฬา
ฝึกกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรง ช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บข้อเข่าจากกีฬา

เปิดอ่าน 11,531 ครั้ง
นาแปลงเดิม ปลูกด้วยวิธีเดิม ผลลัพธ์เหมือนเดิม
นาแปลงเดิม ปลูกด้วยวิธีเดิม ผลลัพธ์เหมือนเดิม

เปิดอ่าน 30,824 ครั้ง
คอลัมน์: การศึกษา: ถึงคิว...พักงาน(ยาว) "ผอ.สมศ." ปลดล็อก..."ประเมินภายนอกรอบ 4"!!
คอลัมน์: การศึกษา: ถึงคิว...พักงาน(ยาว) "ผอ.สมศ." ปลดล็อก..."ประเมินภายนอกรอบ 4"!!

เปิดอ่าน 15,342 ครั้ง
บูชาแล้วรวย
บูชาแล้วรวย

เปิดอ่าน 15,201 ครั้ง
คู่มือหาความสุข
คู่มือหาความสุข

เปิดอ่าน 24,067 ครั้ง
คู่มือประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม(พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาปฐมวัย (2-5ปี) ฉบับสถานศึกษา(แก้ไข)
คู่มือประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม(พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาปฐมวัย (2-5ปี) ฉบับสถานศึกษา(แก้ไข)

เปิดอ่าน 16,726 ครั้ง
เสียงประทัดส่งผลกระทบผู้ป่วย "โรคหัวใจ-ความดันโลหิต"
เสียงประทัดส่งผลกระทบผู้ป่วย "โรคหัวใจ-ความดันโลหิต"

เปิดอ่าน 15,308 ครั้ง
การทำบุญสะเดาะเคราะห์
การทำบุญสะเดาะเคราะห์
เปิดอ่าน 13,983 ครั้ง
6 ประการ สู่การเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานดีและมีความสุข
6 ประการ สู่การเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานดีและมีความสุข
เปิดอ่าน 24,146 ครั้ง
เคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยกำจัดความ "เขิน"
เคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยกำจัดความ "เขิน"
เปิดอ่าน 17,148 ครั้ง
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"
เปิดอ่าน 16,894 ครั้ง
9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!
9 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของกระเทียม ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ