การจัดการศึกษามุ่งเน้นให้ผู้เรียนใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รักการอ่าน รักการเขียน รักการศึกษาค้นคว้า ให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งความคิดสร้างสรรค์เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการส่งเสริมความก้าวหน้าของประเทศชาติ โดยเฉพาะความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์จึงมีบทบาทสำคัญยิ่งในโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์ทำให้คนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ มีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ครูจึงมีความสำคัญในการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกคิด ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองจนเกิดทักษะและได้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์จึงเป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติฝึกทักษะความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาและสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตัวผู้เรียนเอง ผู้รายงานจึงได้จัดทำแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ มีความมุ่งหมายเพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ในรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่องสารและสมบัติของสาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เพื่อหาศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ หลังเรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 /1 โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ ปีการศึกษา 2558 จำนวน 36 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ประกอบแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 แผน มีค่าเฉลี่ยจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ เท่ากับ เท่ากับ 4.76 จากเกณฑ์ 5 คะแนน แบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ มีค่าเฉลี่ยจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ เท่ากับ เท่ากับ 4.69 จากเกณฑ์ 5 คะแนน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องสารและสมบัติของสาร แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 ถือว่ามีความเหมาะสม ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.45 ถึง 0.8 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ เท่ากับ 0.95 และแบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ แบบอัตนัย จำนวน 3 ข้อ ค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง .08 ถึง 1.00 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ เท่ากับ 0.79 สถิติที่ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และตรวจสอบสมมติฐานใช้ t – test (Dependent Sample) ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.27/83.27
2. นักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ในวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่องสารและสมบัติของสารกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ในวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่องสารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ มีความรู้เพิ่มขึ้นจากเดิมคิดเป็นร้อยละ 69
โดยสรุป ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์
เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ในวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เรื่องสารและสมบัติของสาร ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 69 และมีความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์สูงขึ้น ผู้เรียนมีความสุข สนุกสนานและมีความกระตือรือร้นหาคำตอบด้วยการลงมือปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง ดังนั้นครูผู้สอนสามารถที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ