ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจการการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด
โดยใช้รูปแบบโครงงานและเทคนิค Backward Design สอดแทรก
คุณธรรมตามรอยพระยุคลบาทรายวิชาหลักภาษาไทยในชีวิตประจำวัน
ท 30105 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้วิจัย นางสาวหทัยทิพย์ สุกใส
บทคัดย่อ
การจัดกระบวนการเรียนรู้ตามมาตรา 24 ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2545) กำหนดให้ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น รักการอ่าน และเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง โดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ อย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรมค่านิยมที่ดีงาม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน และออกแบบการเรียนรู้ด้วยเทคนิค Backward Design สอดแทรกคุณธรรมตามรอยพระยุคลบาท นับเป็นรูปแบบการสอนหนึ่งที่สอดคล้องกับแนวคิดในการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาดังกล่าว เนื่องจากเป็นรูปแบบที่มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน มีการบูรณาการทักษะ ความรู้ ควบคู่คุณธรรม สามารถพัฒนาทักษะการคิดทั้งระดับพื้นฐานและระดับสูง
การวิจัยเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิด และด้านคุณธรรมตามรอยพระยุคลบาท สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการคิดโดยใช้รูปแบบโครงงานและเทคนิค Backward Design สอดแทรกคุณธรรมตามรอยพระยุคลบาท 2) เพื่อพัฒนาชุดนวัตกรรมการวิจัย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด และ 3) เพื่อศึกษาระดับคุณภาพของนวัตกรรมการวิจัย จากระดับความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดนวัตกรรมการวิจัย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เลย จำนวน 144 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้รูปแบบโครงงานและเทคนิค Backward Design สอดแทรกคุณธรรมตามรอยพระยุคลบาท จำนวน 6 ชุด 2) เครื่องมือที่ใช้ในการหาประสิทธิภาพนวัตกรรมการวิจัย ประกอบด้วย ชุดฝึกกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบประเมินความเที่ยงเชิงเนื้อหา แบบประเมินคุณภาพนวัตกรรมของผู้เชี่ยวชาญ และ3) เครื่องมือหาคุณภาพนวัตกรรม ได้แก่ แบบแสดงความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้นวัตกรรมการวิจัย ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม Microsoft Office Excel สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพของเครื่องมือ ได้แก่ 1) ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ใช้วิธีหาค่าความยาก (ค่า P) และค่าอำนาจจำแนก (ค่าR) 2) ค่าความเที่ยงตรงของแบบทดสอบ ด้วยวิธีการหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้ (IOC) เชิงเนื้อหา และสถิติที่ใช้ในการวิเคราห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยมัชฉิมเลขคณิต (x ̅) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบค่าที ( t-test)
ผลการวิจัยสรุปได้ว่า 1) หลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้รูปแบบโครงงานและเทคนิค Backward Design สอดแทรกคุณธรรมตามรอยพระยุคลบาท ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิด พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าคะแนนก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 11.46 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) จากการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมโดยใช้สูตรE1 / E2 เท่ากับ 80/80 พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียน และคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังการเรียน เท่ากับ 84.31/83.53 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และจากการหาคุณภาพของนวัตกรรมจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ อยู่ในระดับดี และ 3) คุณภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้นวัตกรรมการวิจัยจากระดับความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายอยู่ในระดับดี เช่นเดียวกัน
จากผลการวิจัย แสดงให้เห็นว่าการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบโครงงานและเทคนิค Backward Design สอดแทรกคุณธรรมตามรอยพระยุคลบาท มีผลทำให้ทักษะการคิดและคุณธรรมตามรอยพระยุคลบาทมีการพัฒนาสูงขึ้น ซึ่งการที่ผลการวิจัยเป็นเช่นนี้ อาจจะเนื่องมาจากรูปแบบของนวัตกรรมการวิจัยมีความเหมาะสม สอดคล้องกับหลักการ เป้าหมาย แนวการจัดการศึกษา ตามหลักสูตร สามารถแก้ปัญหา พัฒนาทักษะและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และมีกระบวนการจัดทำ และพัฒนานวัตกรรมให้มีคุณภาพก่อนนำมาใช้สอนจริง รวมทั้งมีการใช้นวัตกรรมอย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ ส่งผลให้การวิจัยบรรลุตามวัตถุประสงค์และสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้