ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ของนักเรียน

ผู้วิจัย นางเกษรินทร์ สีเสียด

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว

สถานที่วิจัย โรงเรียนพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

ระยะเวลาวิจัย ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เปรียบเทียบพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร ในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมหลังการทดลอง 2) เปรียบเทียบพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ของกลุ่มทดลอง ที่มีภูมิหลังทางชีวสังคมที่แตกต่างกัน 3) เปรียบเทียบพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ของกลุ่มทดลอง ที่ผู้ปกครองมีความเอาใจใส่ดูแลทางการเรียนที่ต่างกัน และ 4) เปรียบเทียบพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ของกลุ่มทดลองระยะหลังทดลองและติดตามผล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 80 คน ใน 2 ห้องเรียน ของโรงเรียนพิบูลมังสาหาร โดยสุ่มตัวอย่างห้องละ 40 คน แล้วกำหนดโดยสุ่มให้เป็นกลุ่มทดลอง 40 คน กลุ่มควบคุม 40 คน กลุ่มทดลองใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ ส่วนกลุ่ม ควบคุมได้รับข้อเทศการแนะแนว เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ 1) แบบวัดพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ 2) แบบสอบถามทางชีวสังคม 3) แบบสอบถามความเอาใจใส่ดูแลทางการเรียนของผู้ปกครอง 4) ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ แล

5.) ข้อสนเทศการแนะแนว สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบสองทาง

ผลการวิจัยปรากฏว่า 1) พฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้หลังการทดลองของนักเรียนกลุ่มทดลองสูง กว่าพฤติกรรมดังกล่าวของกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 2) นักเรียนกลุ่มทดลอง ที่มีเพศและระดับการศึกษาของผู้ปกครองแตกต่างกันมีพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้หลังการทดลองไม่แตกต่างกัน แต่นักเรียนที่มีผลการเรียนเฉลี่ยและอาชีพของผู้ปกครองแตกต่างกันมีพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้หลังการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 3) นักเรียนกลุ่มทดลอง ที่ผู้ปกครองมีความเอา ใจใส่ดูแลทางการเรียนต่างกัน มีพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ ไม่แตกต่างกัน และ 4) นักเรียนกลุ่มทดลองมีพฤติกรรมใฝ่เรียนใฝ่รู้ในระยะหลังทดลองและระยะติดตามผลไม่แตกต่างกัน

โพสต์โดย เกษ : [6 ก.ย. 2559 เวลา 04:01 น.]
อ่าน [64510] ไอพี : 101.51.212.130
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,192 ครั้ง
ข่าวดีของบรรดาคนศีรษะล้านทั้งโลก ยาโรคต้อหินกลายเป็นยาปลูกผมได้
ข่าวดีของบรรดาคนศีรษะล้านทั้งโลก ยาโรคต้อหินกลายเป็นยาปลูกผมได้

เปิดอ่าน 13,800 ครั้ง
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ

เปิดอ่าน 3,061 ครั้ง
กรดไหลย้อน และการรักษากรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน และการรักษากรดไหลย้อน

เปิดอ่าน 14,730 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1

เปิดอ่าน 28,628 ครั้ง
ดอกไม้ ประจำวันเกิด
ดอกไม้ ประจำวันเกิด

เปิดอ่าน 918,003 ครั้ง
แบบฟอร์มทางราชการ
แบบฟอร์มทางราชการ

เปิดอ่าน 14,168 ครั้ง
กลูตาไธโอน มีมากกว่าทำให้หน้าใส
กลูตาไธโอน มีมากกว่าทำให้หน้าใส

เปิดอ่าน 21,498 ครั้ง
แค่กินน้อย ๆ แต่ไม่ออกกำลัง แล้วน้ำหนักจะลดได้ไหมนะ?
แค่กินน้อย ๆ แต่ไม่ออกกำลัง แล้วน้ำหนักจะลดได้ไหมนะ?

เปิดอ่าน 10,047 ครั้ง
ครูพันธุ์ควอลิตี้
ครูพันธุ์ควอลิตี้

เปิดอ่าน 23,690 ครั้ง
พระสยามเทวาธิราช
พระสยามเทวาธิราช

เปิดอ่าน 18,210 ครั้ง
พาราเซตามอล
พาราเซตามอล

เปิดอ่าน 37,566 ครั้ง
ผลศึกษา45ผักพื้นบ้าน ต้านมะเร็ง-กินแล้วไม่อ้วน
ผลศึกษา45ผักพื้นบ้าน ต้านมะเร็ง-กินแล้วไม่อ้วน

เปิดอ่าน 15,026 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 16,444 ครั้ง
ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก
ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก

เปิดอ่าน 8,817 ครั้ง
FOCUS ประเด็นจาก PISA : การกำกับดูแลที่มีประสิทธิผลส่งผลอย่างไรต่อการเรียนรู้
FOCUS ประเด็นจาก PISA : การกำกับดูแลที่มีประสิทธิผลส่งผลอย่างไรต่อการเรียนรู้

เปิดอ่าน 10,923 ครั้ง
ยก เฟซบุ๊ก เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในสหรัฐ
ยก เฟซบุ๊ก เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในสหรัฐ
เปิดอ่าน 20,727 ครั้ง
ประตูบ้านให้ลาภ
ประตูบ้านให้ลาภ
เปิดอ่าน 32,823 ครั้ง
ดอกดาหลา
ดอกดาหลา
เปิดอ่าน 2,380 ครั้ง
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
เปิดอ่าน 9,925 ครั้ง
15 นาทีเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
15 นาทีเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ