ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ชั้น

การจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบ 5 ส. เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 เป็นการวิจัยและพัฒนา (research and development) ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research) ศึกษาข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริบทของการจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. ขั้นตอนที่ 2 สร้างและหาประสิทธิภาพของแผนประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาผลการทดลองตามแผนประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 ขั้นตอนที่ 4 ศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2/1 ของโรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” เทศบาลเมืองสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 30 คน แบบแผนในการวิจัย ใช้การทดลองแบบ pre experimental design โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. เป็นแผนการจัดประสบการณ์ จำนวน 42 แผน 2) กิจกรรมการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์แบบ 5 ส. จำนวน 42 กิจกรรม 3) แบบประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหา เป็นแบบประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย อายุ 4-5 ปี ลักษณะข้อสอบเป็นสถานการณ์ประกอบรูปภาพ จำนวน 20 ข้อ แบ่งออกเป็น 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 แบบประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของตนเอง หมายถึง การที่เด็กปฐมวัยใช้ในการแก้ไขอุปสรรคหรือสถานการณ์ที่ยุ่งยากที่เกิดขึ้นกับตนเองโดยไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น จำนวน 10 ข้อ ตอนที่ 2 แบบประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของตนเองที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น หมายถึง การที่เด็กปฐมวัยใช้ในการแก้ไขอุปสรรคหรือสถานการณ์ที่ยุ่งยากที่เกิดขึ้นกับตนเองโดยต้องพึ่งพาผู้อื่น เช่น เพื่อน ผู้ปกครอง ครู หรือ บุคคลรอบข้าง จำนวน 10 ข้อ 4) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจในการเรียน เป็นแบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 1 ชุด 10 ข้อ

การวิจัยครั้งนี้ มุ่งพัฒนาการทักษะการแก้ปัญหาด้วยการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. สำหรับนักเรียนปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยการศึกษาความคิดเห็นและข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ แล้วนำมาสร้างและพัฒนาการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. มีเนื้อหาจำนวน 42 กิจกรรม ซึ่งแต่ละกิจกรรมมีตัวอย่างให้เด็กปฐมวัยได้แก้ปัญหาสถานการณ์ คู่มือประเมินทักษะการแก้ปัญหา การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( x-) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทดสอบค่าที (t-test) แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณาความและตาราง

ผลการวิจัย พบว่า

จากการวิจัยครั้งนี้สามารถสรุปได้ ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริบทของการจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. ดังนี้

1.1 ผลการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า การจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพื่อประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา ที่มีความเหมาะสมที่จะนำไปจัดการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี เพราะการจัดกิจกรรม ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย สามารถช่วยแก้ปัญหาการเรียนได้ และยังช่วยอำนวยความสะดวกแก่ครู นอกจากนี้การจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. ยังสามารถประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ซึ่งทำให้มีการพัฒนาของเด็กปฐมวัยความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

1.2 ผลการวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 พบว่า หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เป็นหลักสูตรที่พัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน ตามศักยภาพภายใต้บริบทของสังคม – วัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทุกคน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้พัฒนาเด็กไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตนเองและสังคม นอกจากนี้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุ 3 – 5 ปี มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคล จึงกำหนดจุดหมายซึ่งถือเป็นมาตรฐานคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย และมีสุขนิสัยที่ดี กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้อย่างคล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหวและรักการออกกำลังกาย ช่วยเหลือตนเองได้เหมาะสมกับวัย รักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและความเป็นไทย อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการคิดและการแก้ปัญหาได้เหมาะสมกับวัย มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีทักษะในการแสวงหาความรู้

1. ผลการศึกษาความคิดเห็นและความต้องการของนักเรียนเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์ การจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 กิจกรรมการวัดผลและประเมินผล พบว่า ผู้เรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นว่า การพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาสำหรับเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบ 5 ส. สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย มีตัวอย่าง ลักษณะของกิจกรรมที่ชัดเจน รูปภาพสวยสีสันเหมาะสมกับเด็กปฐมวัย นอกจากเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 แล้วควรเพิ่มเติมหรือแทรกเนื้อหาให้สอดคล้องกับการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันในทุกกิจกรรมทั้ง 42 กิจกรรม ด้านการนำการจัดประสบการณ์กิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ โดยการจัดเป็นกลุ่ม 4-5 คน เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยตนเองเป็นรายบุคคล เรียนรู้แบบกลุ่มย่อย 2 คน มีการวัดผลและประเมินผลครอบคลุมด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น ฟังซิ...มาฟังฉันซิ ใช้เครื่องมือ ดังนี้ กระป๋องน้ำอัดลมจำนวน 3 ใบ ,สิ่งของที่ใส่ในกระป๋อง เช่น ก้อนหิน เมล็ดถั่วเขียว เมล็ดถั่วดำ ลูกแก้วและทราย ,กลอง ,ปริศนาคำทาย เป็นต้น นอกจากนี้การจัดกิจกรรมในแต่ละกิจกรรมก็จะใช้เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมในแต่ละชุด

2. ผลการพัฒนา (development) การสร้างและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 พบว่า

2.1 ประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.54/83.50 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80

2.2 การเปรียบเทียบการประเมินทักษะก่อนการพัฒนาและหลังการประกอบการจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 โดยมีค่า t เท่ากับ 10.83

3. ผลการทดลองพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาสำหรับเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบ 5 ส. สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” เทศบาลเมืองสุรินทร์ จำนวน 30 คน ซึ่งใช้การจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบ 5 ส. จำนวน 42 ชั่วโมง รวมทั้งประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาผลการทดลองใช้ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ มีความสนใจ กระตือรือร้นในการเรียนรู้ด้วยการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบ 5 ส. มีทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง มีความสุข สนุกกับการเรียน มีความรับผิดชอบในการเรียนรู้ กิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบ 5 ส. ที่นำมาทดลองใช้ นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมาประกอบการเรียนรู้

4. ผลการประเมินความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีต่อจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบ 5 ส. ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( x-= 2.51,S.D.= 0.69) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.69 แสดงว่า นักเรียนมีความพึงพอใจมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อนักเรียนมีความพึงพอใจมาก จำนวน 6 ข้อ พึงพอใจปานกลาง จำนวน 4 ข้อ

โพสต์โดย วรดา : [30 ส.ค. 2559 เวลา 09:51 น.]
อ่าน [4324] ไอพี : 223.205.248.133
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,855 ครั้ง
รามี (ramie) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 17
รามี (ramie) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 17

เปิดอ่าน 48,177 ครั้ง
"อู่ซ่อมคน" : รางวัลชนะเลิศ การประกวดสปอตโทรทัศน์วันครู ประจำปี 2560
"อู่ซ่อมคน" : รางวัลชนะเลิศ การประกวดสปอตโทรทัศน์วันครู ประจำปี 2560

เปิดอ่าน 13,763 ครั้ง
"ปริญญาตรีหมื่นห้า"ฝ่าวิกฤติ!เด็กจบใหม่...ไม่ผ่านโปร!?
"ปริญญาตรีหมื่นห้า"ฝ่าวิกฤติ!เด็กจบใหม่...ไม่ผ่านโปร!?

เปิดอ่าน 16,200 ครั้ง
ประวัติจังหวัดนครพนม
ประวัติจังหวัดนครพนม

เปิดอ่าน 23,861 ครั้ง
การวัดอุณหภูมิของอากาศ
การวัดอุณหภูมิของอากาศ

เปิดอ่าน 14,504 ครั้ง
ครูจีนสุดโหด! ตบเด็กอนุบาลไม่ยั้ง โมโหตอบโจทย์เลขไม่ได้
ครูจีนสุดโหด! ตบเด็กอนุบาลไม่ยั้ง โมโหตอบโจทย์เลขไม่ได้

เปิดอ่าน 285,731 ครั้ง
มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔
มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔

เปิดอ่าน 11,139 ครั้ง
แก้ปัญหา รักแร้ดำ
แก้ปัญหา รักแร้ดำ

เปิดอ่าน 12,036 ครั้ง
วิธีขับสารพิษด้วยการหายใจ
วิธีขับสารพิษด้วยการหายใจ

เปิดอ่าน 13,612 ครั้ง
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า

เปิดอ่าน 27,001 ครั้ง
เทคโนโลยี 3G คืออะไร
เทคโนโลยี 3G คืออะไร

เปิดอ่าน 15,906 ครั้ง
"ศุภโชค"
"ศุภโชค"

เปิดอ่าน 124,996 ครั้ง
สุดยอด! หนังสั้น"เดือนเพ็ญ"ผลงานนักเรียนยอดวิวกว่า2แสนวิวแล้ว
สุดยอด! หนังสั้น"เดือนเพ็ญ"ผลงานนักเรียนยอดวิวกว่า2แสนวิวแล้ว

เปิดอ่าน 22,332 ครั้ง
4 เรื่องฝากครรภ์ที่แม่ต้องรู้
4 เรื่องฝากครรภ์ที่แม่ต้องรู้

เปิดอ่าน 28,799 ครั้ง
สัตว์พวกปลาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย โดนถูกเบ็ดเกี่ยวดิ้น ก็ไม่ได้ตกอกตกใจ(วิทย์)
สัตว์พวกปลาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย โดนถูกเบ็ดเกี่ยวดิ้น ก็ไม่ได้ตกอกตกใจ(วิทย์)

เปิดอ่าน 22,258 ครั้ง
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม
เปิดอ่าน 14,504 ครั้ง
ครูจีนสุดโหด! ตบเด็กอนุบาลไม่ยั้ง โมโหตอบโจทย์เลขไม่ได้
ครูจีนสุดโหด! ตบเด็กอนุบาลไม่ยั้ง โมโหตอบโจทย์เลขไม่ได้
เปิดอ่าน 14,344 ครั้ง
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
เปิดอ่าน 16,168 ครั้ง
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ
เปิดอ่าน 12,434 ครั้ง
ภูเก็ตจัดยิ่งใหญ่ กินเจ ถือศีลกินผัก
ภูเก็ตจัดยิ่งใหญ่ กินเจ ถือศีลกินผัก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ