รายงานการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นายจักรกฤษ การประชิต
ปีการศึกษา 2558
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 เปรียบเทียบคะแนนระหว่างเรียนและหลังเรียนของผู้เรียน เปรียบเทียบคะแนนหลังเรียนของผู้เรียนเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 80 และศึกษาและเปรียบเทียบความพึงพอใจของของผู้เรียนเมื่อเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 2 (แม่ต๋ำดรุณเวทย์) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 มีจำนวน 3 ห้องเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 มีจำนวน 1 ห้องเรียน ทั้งหมดมีจำนวน 4 ห้อง มีผู้เรียนรวมจำนวนทั้งหมด 108 คน
กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ ผู้วิจัยเลือกกลุ่มทดลองแบบเจาะจง (Purposive sampling) คือผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวนผู้เรียน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เป็นข้อสอบวัดความรู้ ทั้งหมดจำนวน 40 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน เก็บรวบรวมข้อมูลในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ถึงเดือนมกราคม 2557และภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 ถึงเดือนมกราคม 2559 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานร้อยละ ค่าความเชื่อมั่น ค่าสัมประสิทธิ์ของความแปรผัน
ผลการวิจัยพบว่า
1. คะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียน- หลังเรียนของผู้เรียนเมื่อเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 มีประสิทธิภาพเฉลี่ยเท่ากับ 88.99/85.00 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานที่วางไว้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าแบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและ การสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่สร้างขึ้นได้ปรึกษากับผู้รู้ที่มีความรู้ ด้านหลักสูตรที่นำมาออกแบบการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับชั้นต่างๆ และได้รับคำแนะนำและปรับปรุงแก้ไขในด้านการผลิต และผ่านการนำไปทดลองใช้แนะนำมาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตาม
2. คะแนนของผู้เรียนต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและ การสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 มีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน( = 34.00) สูงกว่าก่อนเรียน( =26.88) ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าผู้เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาที่ตรงตามหลักสูตรและเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ส่งผลให้ผู้เรียนมีความสนใจและตั้งใจที่จะศึกษาโดยใช้แบบฝึกทักษะฯ และ ยังสามารถเรียนรู้ได้บ่อยครั้งตามความต้องการ และยังช่วยให้ครูผู้สอนมีความสะดวกในการอธิบายเพิ่มเติม หรือ ทบทวนเนื้อหาเมื่อผู้เรียนทำไม่ถูกต้อง ทำให้คะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน
3. คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและ การสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 80 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยพบว่ามีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 88.99 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 80 ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นสื่อการสอนที่แตกต่างจากแบบฝึกทักษะหรือเอกสารประกอบการสอนอื่นๆที่จำหน่ายทั่วไป ผู้เรียนจึงให้ความสนใจและมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้น มีรายละเอียดที่ผู้เรียนมีความจำเป็นในการใช้ศึกษา และตรงกับความต้องการ ทันสมัยเหมาะกัยวัยและความสามารถของผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติและทบทวนซ้ำได้ตามต้องการ
4. ความพึงพอใจต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 มีค่าเฉลี่ยที่ไม่แตกต่างกัน และพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.83) ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทำให้เกิดความสนใจการเรียนมากขึ้นเมื่อเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ ช่วยกระตุ้นทำให้เกิดความเร้าใจและตื่นเต้นในเนื้อหาที่สามารถประยุกต์ใช้กับเครื่องมือสารสนเทศได้ ช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจเนื้อหาและสามารถปฏิบัติทักษะการพูดตามโครงสร้าง ได้ตามต้องการ พร้อมทั้งผู้เรียนสามารถประเมินผลงานของตนเองได้อย่างชัดเจนในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ จึงทำให้ผู้เรียนเกิดความพึงพอใจ
ดังนั้นแบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่สามารถอำนวยความสะดวกและลดปัญหา ในการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ที่ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ดีที่สุด ผู้เรียนสามารถศึกษาและทบทวนได้ด้วยตนเอง นอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียนให้เกิดความชำนาญและสามารถใช้เวลาในการฝึกได้ตามต้องการโดยไม่จำกัดในสถานที่ สามารถนำใช้กับผู้เรียนในโรงเรียนอื่นได้ตามต้องการ หรือ บูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและ ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง อย่างไรก็ตาม แบบฝึกทักษะพัฒนาการสื่อสารและการสืบค้นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นสื่อการสอนที่ให้ความรู้ และแนวทางการใช้ภาษาอังกฤษ โดยผู้เรียนต้องนำไปฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ และจะต้องเรียนรู้จากครูผู้สอนเพิ่มเติม เพื่อให้ครูชี้แนะปรับปรุงเพิ่มเติม ในข้อบกพร่องเพิ่มเติมด้วย