ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลการใช้กระบวนการจัดกิจกรรม 6 สหาย เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึก

กระบวนการจัดกิจกรรม 6 สหาย คือ เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวคิดทฤษฏีพื้นฐาน 3 ทฤษฎี ประกอบด้วย

1) ทฤษฎีการเรียนรู้ด้านจิตพิสัย ที่ว่ากระบวนการเรียนรู้ด้านความรู้สึกมี

ความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน โดยเริ่มจาก การรับรู้จากการสังเกต การตอบสนองจากความเชื่อ

การยินยอมและการยอมรับ การรู้หรือการมองเห็นคุณค่าแล้วเกิดความชื่นชอบ มีเจตคติ เห็นค่านิยม

มีการจัดระบบคุณค่าและการสร้างลักษณะนิสัยของตนเอง

2) ทฤษฏีการเรียนรู้ทางปัญญาสังคม ที่ว่าการเรียนรู้เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวบุคคล สิ่งแวดล้อมและ พฤติกรรม มีอิทธิพลต่อกันและกัน ซึ่งการเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนมากเป็นการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือการเลียนแบบจากตัวแบบ มีกระบวนการเรียนรู้ คือ การใส่ใจ การเข้ารหัสเก็บไว้ในหน่วยความจำแล้วแสดงออกเป็น พฤติกรรม และ

3) ทฤษฏีการเรียนรู้จากพื้นฐานการทำงานของสมอง ที่ว่า กระบวนการเรียนรู้เป็นการเชื่อมโยงกับการพัฒนาของเซลล์สมองทั้งในด้านการจัดกิจกรรม ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ตลอดจนการจัดสิ่งแวดล้อม และกระบวนการอื่น ๆ การใช้เครื่องมือ ร่วมกับสื่อต่าง ๆ ทำให้ผู้เรียนสนใจ เข้าใจ และเก็บไว้ในความทรงจำระยะยาว ทั้งยังสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ มาใช้ประโยชน์ได้เหมาะสม เสาะแสวงหาความหมาย รูปแบบ การเชื่อมโยง การรับรู้ข้อมูลใหม่ สามารถเชื่อมโยงระบบคิดจนก่อให้เกิดเป็นความเคยชิน นำไปสู่ การประพฤติปฏิบัติจนเป็นนิสัย

มีทั้ง 6 ขั้น ที่มีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน เปรียบเสมือนเพื่อน หรือสหาย ทั้ง 6

ที่คอยให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อให้กิจกรรมที่ทำได้บรรลุตามเป้าหมาย ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

สหาย 1 จิตสนใจรับรู้ คือ การจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนได้เกิดแรงจูงใจภายใน เกิดความสนใจเต็มใจที่จะเรียนรู้ และกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมในการถ่ายโยงความรู้ หรือประสบการณ์เดิมของผู้เรียนกับความรู้ใหม่หรือประสบการณ์ใหม่ โดยการให้ตัวแบบ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียน สังเกต วัตถุหรือเหตุการณ์เป็นการเร้าความสนใจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จ

สหาย 2 คุณค่าคิดวิเคราะห์ คือ การกระตุ้นให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณค่าหรือความสำคัญ ของคุณลักษณะและผลกระทบของการปฏิบัติและไม่ปฏิบัติต่อตนเองและสิ่งแวดล้อม และการให้ความกระจ่างหรือสร้างความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่ได้ตั้งประเด็นสนใจไว้ให้มีความหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยอาศัยทักษะการเรียนรู้ เจตคติ ค่านิยม หรือประสบการณ์เดิมของผู้เรียน กระตุ้นจิตใจผู้เรียนให้เริ่มยอมรับที่จะปฏิบัติ

สหาย 3 บ่มเพาะประสบการณ์ คือ การให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน โดยนำประเด็นเนื้อหาที่ได้ทำความเข้าใจในขั้นสร้างคุณค่าคิดวิเคราะห์ มาขยายขอบเขตของข้อความรู้ ให้มีความละเอียดชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้า ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังในลักษณะการทำงานกลุ่ม และสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานทีละน้อยให้เห็นถึงความรู้ที่ได้ค้นคว้า เพื่อให้ผู้เรียนเห็นประโยชน์ของสิ่งที่กระทำ มีความหมาย มีคุณค่าต่อตนเอง ส่วนรวมหรือสิ่งแวดล้อม

สหาย 4 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ คือ การนำข้อความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ค้นพบ หรือผลงานที่ร่วมกันปฏิบัติ มานำเสนอสู่เวทีการสนทนา อภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อเป็นการตอบสนองความรู้ ความเข้าใจ และเพิ่มพูนความรู้ที่อยู่ให้มีความรู้มากขึ้น

สหาย 5 สรุปความรู้ คือ การนำผลของความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มาร่วมกันจัดระบบความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการ หรือข้อค้นพบต่างๆ ที่ได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว มาจัดทำเป็นระบบระเรียบ และสามารถแสดงข้อสรุปที่ได้ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้เข้าใจได้ โดยทำเป็นแผนผังความคิด ฯลฯ

สหาย 6 ชื่นชมผลงาน คือ การนำผลงานของแต่ละกลุ่มที่ร่วมกันสรุปเป็นองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ ครูกระตุ้นความคิดความรู้สึก ของผู้เรียนให้รู้สึกประสบผลสำเร็จ พอใจ และต้องการจะกระทำคุณลักษณะนั้นๆ และให้การเสริมแรง เช่น การชมเชย ให้รางวัล

ผลการใช้กระบวนการกิจกรรมเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า

1. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการจัดกิจกรรมเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีเหตุผลด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และอยู่อย่างพอเพียง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมด้วยกระบวนการจัดกิจกรรมเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีพฤติกรรมด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และอยู่อย่างพอเพียง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสังเกตพฤติกรรม การสัมภาษณ์ การประเมินพฤติกรรมนักเรียน จากครูผู้สอน ครูที่ปรึกษา ผู้ปกครองนักเรียน และบันทึกหลังแผนการจัดกิจกรรม ของนักเรียนในกลุ่มทดลองแสดงให้เห็นว่าการเรียนตามกระบวนการจัดกิจกรรมเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ช่วยให้นักเรียนมีเหตุผล และพฤติกรรมด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ดีขึ้น

โพสต์โดย ณดล : [24 ส.ค. 2559 เวลา 11:33 น.]
อ่าน [5326] ไอพี : 172.16.100.47, 182.5
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,787 ครั้ง
เก็บโลกไว้ให้ลูกหลานด้วย “10 วิถีใช้ชีวิตพอเพียง”
เก็บโลกไว้ให้ลูกหลานด้วย “10 วิถีใช้ชีวิตพอเพียง”

เปิดอ่าน 12,913 ครั้ง
มิติใหม่การศึกษา ... เดินหน้า TEPE Online พัฒนา “ครู” สนับสนุน “ครูตู้” พัฒนาเด็กไทยอย่างเท่าเทียม
มิติใหม่การศึกษา ... เดินหน้า TEPE Online พัฒนา “ครู” สนับสนุน “ครูตู้” พัฒนาเด็กไทยอย่างเท่าเทียม

เปิดอ่าน 1,333 ครั้ง
เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่ม Multi-skill ให้ตัวเองด้วย
เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่ม Multi-skill ให้ตัวเองด้วย

เปิดอ่าน 21,901 ครั้ง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง

เปิดอ่าน 133,645 ครั้ง
"ความแตกต่างระหว่าง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กับ โรงเรียนอนุบาล" โดย ดร.สุวรรณ พิณตานนท์
"ความแตกต่างระหว่าง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กับ โรงเรียนอนุบาล" โดย ดร.สุวรรณ พิณตานนท์

เปิดอ่าน 27,465 ครั้ง
วิธีการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
วิธีการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 55,502 ครั้ง
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร

เปิดอ่าน 9,595 ครั้ง
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์
คุณครูเคยดูหรือยัง : การเรียนการสอนในสิงคโปร์

เปิดอ่าน 193,318 ครั้ง
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน

เปิดอ่าน 11,929 ครั้ง
ดื่มนม วิธีเสริมแคลเซียมอย่างประหยัด
ดื่มนม วิธีเสริมแคลเซียมอย่างประหยัด

เปิดอ่าน 19,574 ครั้ง
ดีปลี
ดีปลี

เปิดอ่าน 16,653 ครั้ง
8 นิสัยที่ฉุดให้การทำงานของคุณย่ำอยู่กับที่
8 นิสัยที่ฉุดให้การทำงานของคุณย่ำอยู่กับที่

เปิดอ่าน 27,986 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่

เปิดอ่าน 23,017 ครั้ง
เส้นทางสายไหม
เส้นทางสายไหม

เปิดอ่าน 110,089 ครั้ง
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญานิยม
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญานิยม

เปิดอ่าน 19,139 ครั้ง
แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา โดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา พฤษภาคม 2562
แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา โดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา พฤษภาคม 2562
เปิดอ่าน 2,995 ครั้ง
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค
เปิดอ่าน 23,234 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557
เปิดอ่าน 13,777 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวเกาหลีใต้ชนะจีน 3-2 เซต คว้าที่ 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวเกาหลีใต้ชนะจีน 3-2 เซต คว้าที่ 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
เปิดอ่าน 32,730 ครั้ง
ศธ.สั่งลดเวลาเรียนในห้องเรียน เหลือเพียง 14.00 น. เด็กจะได้..
ศธ.สั่งลดเวลาเรียนในห้องเรียน เหลือเพียง 14.00 น. เด็กจะได้..

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ