ชื่อวิจัย รายงานผลการใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตาเซะใต้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส
ผู้วิจัย นางซารีนา บีรู
สาขาวิชา สุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ปีที่ทำการศึกษา ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.) เพื่อสร้างและศึกษาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ชีวิตและครอบครัว วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตาเซะใต้ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2.) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ชีวิตและครอบครัว วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3.) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ชีวิตและครอบครัว วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตาเซะใต้ ปีการศึกษา 2558 จำนวน 36 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา จำนวน 20 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัย แบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.21 0.78 มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.81 และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการใช้บทเรียนสำเร็จรูป เป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพบทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตาเซะใต้ มีประสิทธิภาพ (E_1/E_2)เท่ากับประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ (E_1/E_2)เล่มที่ 1 การเจริญเติบโตของมนุษย์ เท่ากับ 81.60/84.04 เล่มที่ 2 ระบบกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ เท่ากับ 82.56/83.60 เล่มที่ 3 คุณค่าของเพื่อนและครอบครัว เท่ากับ 82.43/83.43 และเล่มที่ 4 พฤติกรรมทางเพศ เท่ากับ 84.08/82.56 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูป ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย (x ̅) เท่ากับ 21.91มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D)เท่ากับ 7.79ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย (x ̅) เท่ากับ 44.70มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D)เท่ากับ 2.24 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนบ้านตาเซะใต้ พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาโดยภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.57ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.40 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า การนำเสนอเนื้อเรื่องชวนอ่านชวนติดตามอ่าน การเรียงลำดับเนื้อเรื่องไม่สับสนได้ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ นักเรียนสนุกสนานเพลิดเพลินกับการอ่านบทเรียนสำเร็จรูป วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา และที่ต่ำที่สุดคือ ขนาดรูปเล่มพอเหมาะไม่ใหญ่หรือหนาเกินไป หยิบอ่านได้สะดวก