ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ อันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามขอ

ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลมาบตาพุด

ผู้วิจัย นายสมควร ทองเรือง ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา

โรงเรียนเทศบาลมาบตาพุด กองการศึกษา เทศบาลเมืองมาบตาพุด จังหวัดระยอง

ปีที่วิจัย 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง รูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน ใช้วิธีการดำเนินการวิจัยลักษณะการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Design)ด้วยการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) ร่วมกับการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) เพื่อการตอบคำถามการวิจัยให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ 4 ประการ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลมาบตาพุด 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพ 3) เพื่อศึกษาผลการประเมินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลมาบตาพุดตามรูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน 4) เพื่อศึกษาผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลมาบตาพุดหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามตามรูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนในปีการศึกษา 2556 ระดับประถมศึกษาปีที่ 1- มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 987 คน ปีการศึกษา 2557 ชั้นประศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1,056 คน และปีการศึกษา 2558 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1,097 คน รวม 3 ปีการศึกษา จำนวน 3,140 คน ครูผู้สอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา รวมทั้งสิ้น 17 คน เครื่องมือประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย 1) เครื่องมือประเมินครู ได้แก่ แบบประเมินความรู้ความเข้าใจของครู คือ แบบประเมินความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ และแบบประเมินความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และแบบประเมินความคิดเห็นของครูระดับมัธยมศึกษาที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้และ 2) เครื่องมือประเมินนักเรียน ได้แก่ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน มีลักษณะเป็นแบบประเมินเพื่อให้ครูประจำชั้น เป็นผู้ประเมินนักเรียนทุกคนในชั้น เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่าชนิด 5 ตัวเลือก คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด สอบถามเกี่ยวกับคุณธรรมที่แสดงออก ตามเป้าหมายคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงาม 3 ด้าน21 ตัวชี้วัด ดำเนินการตรวจสอบความเหมาะสมและความสอดคล้องของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย เรื่อง รูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน มีรูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน จำนวน 10 กิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 43.47 ไม่มีการจัดกิจกรรม 13 กิจกรรม คิดเป็น ร้อยละ 56.53

2. ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน ประกอบด้วย สาระสำคัญ 3 ตอน ดังนี้ 2.1) ตอนที่ 1 บทนำ 2.2) ตอนที่ 2 แนวทางในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียนในสถานศึกษา 2.3) ตอนที่ 3 รูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียนและผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียนของผู้เชี่ยวชาญโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาแยกตามด้านการประเมินจากมากไปหาน้อย พบว่า ผลการประเมินด้านคุณค่าของเอกสาร อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านการนำไปใช้จัดกิจกรรม และด้านลักษณะเอกสาร

3. ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลมาบตาพุดสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครระยอง ตามแนวทางการพัฒนารูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน ปีการศึกษา 2556-2558 1) โรงเรียนเทศบาลมาบตาพุดสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครระยองมีการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียนได้ตามวัตถุประสงค์เกือบทุกกิจกรรม โดยภาพรวม ทั้ง 2 ปีการศึกษา ปรากฏว่าปีการศึกษา 2557 เพิ่มจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 19 กิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 82.61 และในปีการศึกษา 2558 จัดกิจกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 21 กิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 91.30 ตามลำดับ 2) ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาการครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลมาบตาพุดสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครระยอง ตามลักษณะการจัดกิจกรรมในโรงเรียน พบว่า แนวทางการจัดกิจกรรมที่โรงเรียนดำเนินการ มีลักษณะส่วนใหญ่เกิดจากครูที่ปรึกษาเป็นผู้กำหนด

4. ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนาครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีงามของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลมาบตาพุดสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครระยอง หลังการจัดกิจกรรมตามแนวทางที่พัฒนาขึ้นในเอกสาร พบว่า นักเรียนในปีการศึกษา 2556-2558 มีพฤติกรรมด้านคุณธรรมที่แสดงออก จำนวน 20 รายการ ในภาพรวมพบว่า อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 2.22 คิดเป็นร้อยละ 73.95 จำแนกรายปีการศึกษา เมื่อเรียงลำดับพฤติกรรมที่นักเรียนแสดงออกจากการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่ดีงาม จากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย พบว่า ปีการศึกษา 2558 อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 2.49 คิดเป็นร้อยละ 81.94 รองลงมาเป็นปีการศึกษา 2557 อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 2.12 คิดเป็นร้อยละ 70.63 และปีการศึกษา 2556 อยู่ในระดับ มาก มีค่าเฉลี่ย 2.06 คิดเป็นร้อยละ 68.62 ตามลำดับ จำแนกตามรายคุณธรรมที่แสดงออก จากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย นักเรียนเป็นผู้มีสติ มีความประพฤติดี ไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุข การทะเลาะวิวาท ชู้สาว สิ่งเสพติดทุกประเภท มีความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ให้อภัย อยู่ในระดับ มาก มีค่าเฉลี่ย 2.35 คิดเป็นร้อยละ 78.34 รองลงมาเป็นด้านที่นักเรียนมีบุคลิกภาพที่ดี กล้าแสดงออก มั่นใจในตนเอง และมีมนุษยสัมพันธ์และนักเรียนมีจิตใจสงบ มีสมาธิ และอารมณ์ แจ่มใส อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 2.33 คิดเป็นร้อยละ 77.63 และนักเรียนมีระเบียบวินัย และตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 2.31 คิดเป็นร้อยละ 76.90 ตามลำดับ

โพสต์โดย ผอ.สมควร : [15 ส.ค. 2559 เวลา 13:04 น.]
อ่าน [5159] ไอพี : 223.206.246.121
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,817 ครั้ง
รายงานการวิจัย สถานภาพการประยุกต์ใช้ ICT เพื่อการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรองรับการปฏิรูปการศึกษ
รายงานการวิจัย สถานภาพการประยุกต์ใช้ ICT เพื่อการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรองรับการปฏิรูปการศึกษ

เปิดอ่าน 30,578 ครั้ง
5 อาหารกินแล้วอ้วนตามความเชื่อแบบผิด ๆ
5 อาหารกินแล้วอ้วนตามความเชื่อแบบผิด ๆ

เปิดอ่าน 11,342 ครั้ง
มันมากับ กาแฟ ไม่ใช่คาเฟอีน!!
มันมากับ กาแฟ ไม่ใช่คาเฟอีน!!

เปิดอ่าน 59,871 ครั้ง
เหตุใดน้ำแข็ง จึงลอยอยู่บนน้ำได้
เหตุใดน้ำแข็ง จึงลอยอยู่บนน้ำได้

เปิดอ่าน 35,010 ครั้ง
ทำโทรศัพท์มือถือเป็นเม้าส์ไร้สายกันเถอะ
ทำโทรศัพท์มือถือเป็นเม้าส์ไร้สายกันเถอะ

เปิดอ่าน 13,724 ครั้ง
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ

เปิดอ่าน 12,734 ครั้ง
วังน้ำเขียว สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน
วังน้ำเขียว สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน

เปิดอ่าน 17,370 ครั้ง
"ไข่ปลิงในผักบุ้งผักกระเฉด ทนความร้อน 500 องศา"  เป็นเรื่องหลอกลวง
"ไข่ปลิงในผักบุ้งผักกระเฉด ทนความร้อน 500 องศา" เป็นเรื่องหลอกลวง

เปิดอ่าน 19,554 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

เปิดอ่าน 3,962 ครั้ง
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร

เปิดอ่าน 30,697 ครั้ง
แผ่นป้าย "คำอวยพรอักษรจีน" เสริมโชคลาภ-สิริมงคล
แผ่นป้าย "คำอวยพรอักษรจีน" เสริมโชคลาภ-สิริมงคล

เปิดอ่าน 110,089 ครั้ง
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญานิยม
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญานิยม

เปิดอ่าน 17,788 ครั้ง
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"

เปิดอ่าน 14,342 ครั้ง
แนวปฎิบัติการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาสำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนพร้อมใช้หลักสูตรแกนกลางฯ2551
แนวปฎิบัติการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาสำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนพร้อมใช้หลักสูตรแกนกลางฯ2551

เปิดอ่าน 42,825 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น

เปิดอ่าน 26,616 ครั้ง
ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก ช.พ.ค.
ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก ช.พ.ค.
เปิดอ่าน 591,148 ครั้ง
Adjective ตำแหน่งของคุณศัพท์ ( Position )
Adjective ตำแหน่งของคุณศัพท์ ( Position )
เปิดอ่าน 28,241 ครั้ง
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
เปิดอ่าน 11,233 ครั้ง
"ขี้เหล็ก" ช่วยระบาย-สงบประสาท แต่ไม่ใช่ "ยานอนหลับ" โดยตรง
"ขี้เหล็ก" ช่วยระบาย-สงบประสาท แต่ไม่ใช่ "ยานอนหลับ" โดยตรง
เปิดอ่าน 12,818 ครั้ง
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ