|
|
ชื่อเรื่อง : การเตรียมความพร้อมด้านสังคมของเด็กปฐมวัย โดยใช้หนังสือนิทาน
ชุด หนูจะเป็นเด็กดี
ชื่อผู้วิจัย : พรรณี เลิศเกษม
ปีที่ศึกษา : 255๘
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาหนังสือนิทานสำหรับการเตรียมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ชุด หนูจะเป็นเด็กดี ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะทางสังคมของเด็กระดับปฐมวัย ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือนิทานสำหรับการเตรียมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ชุด หนูจะเป็นเด็กดี กลุ่มเป้าหมายของการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๒ ปีการศึกษา 255๘ ของโรงเรียนเทศบาล ๓ ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี จำนวน ๒๗ คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) หนังสือนิทานสำหรับการเตรียมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ชุด หนูจะเป็นเด็กดี จำนวน ๘ เล่ม 2) แผนการจัดประสบการณ์ ชั้นอนุบาลปีที่ ๒ จำนวน 2๔ แผน ใช้เวลาในการจัดประสบการณ์ แผนละ 20 นาที 3) แบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. หนังสือนิทานสำหรับการเตรียมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ชุด หนูจะเป็นเด็กดี ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพจากการนำเครื่องมือไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย ผลปรากฏว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.๗๓/๙๑.๐๐ แสดงว่าหนังสือนิทานสำหรับการเตรียมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ชุด หนูจะเป็นเด็กดี ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้ และได้ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) เท่ากับ 0.๘๒ หรือคิดเป็นร้อยละ ๘๒.๐๐ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 50
2. ผลการเปรียบเทียบคะแนนจากการสังเกตพฤติกรรมทางสังคมก่อนและหลังจัดประสบการณ์ประกอบหนังสือนิทานสำหรับการเตรียมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ชุด หนูจะเป็นเด็กดี พบว่า หลังการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือนิทานสำหรับการเตรียมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ชุด หนูจะเป็นเด็กดี มีคะแนนเฉลี่ยหลังจัดประสบการณ์ เท่ากับ 12.7๔ ซึ่งสูงกว่าก่อนจัด ประสบการณ์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.00 สรุปได้ว่า เด็กมีคะแนนจากการสังเกตพฤติกรรมทางสังคมหลังจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือนิทานสำหรับการเตรียมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ชุด หนูจะเป็นเด็กดี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และเมื่อพิจารณาผลการสังเกตพฤติกรรมเป็นรายสัปดาห์ พบว่า มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น
|
โพสต์โดย พรรณี เลิศเกษม : [13 ส.ค. 2559 เวลา 14:39 น.] อ่าน [5194] ไอพี : 49.48.246.148
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 35,982 ครั้ง
| เปิดอ่าน 135,122 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,616 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,529 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,513 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,300 ครั้ง
| เปิดอ่าน 590,896 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,307 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,119 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,010 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,755 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,684 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,509 ครั้ง
| เปิดอ่าน 70,500 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,565 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 15,839 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,604 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,393 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,669 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,103 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|