ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชา ชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกโดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นางสาวดวงฤทัย อุดทุม
สถานศึกษา โรงเรียนรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33
ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5 E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียน ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนกลุ่มตัวอย่างชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 จำนวน 48 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เวลาทดลอง 18 ชั่วโมง แบบแผนการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบ One-Group Pretest-Posttest Design วิเคราะห์ข้อมูลด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการทดสอบแบบ t-test Dependent และใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า
1. ผลการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ 93.80 /90.29 ซึ่งสูงตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5 E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.8575
แสดงว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 85.75 ซึ่งสูงกว่าค่าดัชนีประสิทธิผลที่ระดับ .05 ขึ้นไป
3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 แสดงว่าการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นได้จริง โดยคะแนนหลังเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนแสดงว่า นักเรียนมีการพัฒนาและมีความก้าวหน้าทางการเรียนสูงขึ้น
4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียน ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาพรวมทั้ง 20 รายการนักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีคะแนนเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.29
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 2 หน่วยที่ 3 เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก โดยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ครั้งนี้ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นมีพฤติกรรมการเรียนรู้ไปในทางที่ดีขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ทักษะอื่นได้ต่อไป