การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์
เรื่อง ลำดับ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เทคนิค STAD 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับ สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรเู้ ทคนิค STAD ให้มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 75 และนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของนักเรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร  เรื่อง ลำดับโดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เทคนิค STAD
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ที่เรียนวิชา
คณิตศาสตร์ 3 รหัสวิชา ค32101 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบัวใหญ่
อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 36 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง
ปฏิบัติการ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ลำดับ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค STAD จำนวน 12 แผน 12 ชั่วโมง
2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติการ ได้แก่ แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการสอน
ของผู้วิจัย แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แบบบันทึกผลหลังการใช้แผนการจัดการ
เรียนรู้ แบบสัมภาษณ์นักเรียนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และแบบทดสอบย่อยท้ายวงจร
ปฏิบัติการ 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 3 รหัสวิชา ค32101 เรื่อง ลำดับ
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค STAD
จำนวน 30 ข้อ แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก รูปแบบวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการมีวงจร
ปฏิบัติการ 3 วงจร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ค่าร้อยละและสรุปความเรียง
ผลการวิจัย พบว่า
1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรวูิ้ชาคณิตศาสตร  เรื่อง ลำดับ สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรเู้ ทคนิค STAD เป็นรูปแบบ
การสอนที่มีประสิทธิภาพ เป็นกิจกรรมทนีั่กเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์
ทำความเข้าใจวางแผนเลือกแนวทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง มีทักษะการทำงานเป็นกลุ่มมีการแลกเปลี่ยนความรู้ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กล้าแสดงความคิดเห็น ยอมรับฟังความ
คิดเห็นของผู้อื่นเมื่อมีเหตุผลดีกว่า รับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย โดยมีขั้นตอนในการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ 1) ขั้นนำเสนอบทเรียนต่อทั้งชั้น มี 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย
(1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เป็นการแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และทบทวนความรู้เดิมเพื่อเตรียมความ
พร้อมและเร้าความสนใจของนักเรียนให้พร้อมที่จะเรียนเรื่องใหม่ (2) ขั้นสอน ผู้วิจัยเสนอเนื้อหา
ใหม่ซึ่งเป็นสถานการณ์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ใช้สื่อการสอน ใช้เทคนิคการถาม-ตอบ
กระตุ้นความคิดประกอบการอธิบาย เพื่อให้นักเรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็น (3) ขั้นสรุป
เป็นการอภิปรายร่วมกันจนได้ข้อสรุปของเนื้อหา 2) ขั้นการศึกษากลุ่มย่อย เป็นขั้นทนีั่กเรียน
เข้ากลุ่มศึกษาใบความรู้ โดยนักเรียนศึกษาเนื้อหาจนเข้าใจครบทุกคน หลังจากนั้นช่วยกันทำใบงาน
หรือกิจกรรมไปพร้อม ๆ กัน 3) ขั้นการทดสอบย่อย หลังจากสิ้นสุดการเรียนในแต่ละวงจร
ปฏิบัติการ นักเรียนทำแบบทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการ โดยต่างคนต่างทำไม่มีการช่วยเหลือกัน
4) ขั้นการคิดคะแนนความก้าวหน้า คือผลต่างระหว่างคะแนนฐานกับคะแนนที่นักเรียน
ทำการทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการเพื่อหาคะแนนความก้าวหน้าของกลุ่ม 5) ขั้นการคิดคะแนน
กลุ่มที่ได้รับการยกย่อง เป็นการนำคะแนนความก้าวหน้าของกลุ่มมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด
ไว้แล้วทำการจัดระดับของกลุ่มเพื่อรับรางวัลเป็นกลุ่มเก่ง (Good team) กลุ่มเก่งมาก (Great
Team) และกลุ่มยอดเยี่ยม (Supper Team) ยกย่องชมเชยกลุ่มที่ประสบผลสำเร็จและมอบรางวัล
ตามที่ตกลงกันไว้ให้กับกลุ่มที่ประสบผลสำเร็จมีคะแนนจากการทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการที่ 1,
2 และ 3 คิดเป็นร้อยละ 75.60, 76.52 และ 78.21 ตามลำดับ และในการจัดกิจกรรมครั้งนี้
นักเรียนได้รับพัฒนาการผ่านรูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรเู้ทคนิค STAD ทำให้นักเรียน
ได้พัฒนาทักษะการทำงานเป็นกลุ่มมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความสามัคคี
มีความรับผิดชอบ กล้าแสดงออกและมีความมั่นใจในตัวเอง
2. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับ สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค STAD มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 76.54 และมีจำนวนนักเรียนร้อยละ 75.63 ของนักเรียนทั้งหมด
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป
3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรวูิ้ชาคณิตศาสตร ์
เรื่อง ลำดับ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้
เทคนิค STAD อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.79 )