ชื่อผลงานวิจัย รายงานผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E)
เรื่อง ระบบอวัยวะในร่างกาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
โรงเรียนบ้านไทร อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ
ชื่อผู้วิจัย นางสาวชลัดดา ขันบรรจง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านไทร
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ระบบอวัยวะในร่างกาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 โรงเรียนบ้านไทร อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ระบบอวัยวะในร่างกาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านไทร อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ 3) ศึกษาเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านไทร อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ระบบอวัยวะในร่างกาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านไทร อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ระบบอวัยวะในร่างกาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านไทร จำนวน 15 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากผู้วิจัยเป็นครูผู้สอนประจำชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย (1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นแบบสืบเสาะหาความรู้ (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนและหลังเรียนรายแผนการจัดการเรียนรู้ (3) แบบประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตร์ (4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t) ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ทุกแผน โดยมีค่าประสิทธิภาพรวม 87.93/89.26
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
3. เจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต่อการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) พบว่า โดยรวมนักเรียนมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26 หรือคิดเป็นนักเรียนร้อยละ 85.28
4. ความพึงพอใจของนักเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต่อการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) พบว่า โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.15 หรือคิดเป็นนักเรียนร้อยละ 83.07