ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

หนังสือส่งเสริมการอ่านชุดมาตราตัวสะกดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 2

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ และเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทยเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สามารถประกอบกิจธุระการงานและดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาชาติได้อย่างสันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์ จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ ความคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และความก้าวหน้า ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีตลอดจนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคง ทางสังคมและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อที่แสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี ชีวทัศน์ โลกทัศน์ และสุนทรียภาพ โดยบันทึกไว้เป็นวรรณคดีและวรรณกรรมอันล้ำค่า ภาษาไทยจึงเป็นสมบัติของชาติที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ เพื่ออนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป (กระทรวงศึกษาธิการ,2551: หน้า 1)

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดวิชาภาษาไทยเป็นกลุ่มสาระหลักในการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนเมื่อมีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล และคิดอย่างมีระบบ มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน ฟัง พูด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล และคิดอย่างมีระบบ มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน การแสวงหาความรู้และการใช้ภาษาตระหนักในวัฒนธรรมการใช้ภาษาและความเป็นไทยภูมิใจและชื่นชมในวรรณคดีและวรรณกรรม ซึ่งเป็นเป็นภูมิปัญญาของคนไทยสามารถนำทักษะทางภาษามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถูกต้องตามสถานการณ์ และบุคคล (กระทรวงศึกษาธิการ. 2545 : 2)

การอ่านเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยปรับและขยายประสบการณ์ของมนุษย์ ทั้งยังช่วยให้สามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และสร้างความเพลิดเพลินจากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ได้มากและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าความสำเร็จในการเรียนของเด็กส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการอ่าน คืออ่านช้า ขาดความเข้าใจในการอ่าน และไม่สามารถจดจำเรื่องที่อ่านได้ ย่อมทำให้การเรียนวิชาต่าง ๆ ไม่ได้ผลไปด้วย ทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่ายวิตกกังวลหรือเกิดความท้อแท้ไม่อยากเรียนต่อไป การอ่าน จึงเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่ความรู้ความเข้าใจในวิชาการต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้น การอ่าน จะช่วยทำให้นักเรียนค้นหาความรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่ตนอยากรู้ ขยายความรู้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ฉะนั้น การอ่านจึงเป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จอีกหลายด้าน

หนังสือส่งเสริมการอ่านนับได้ว่าเป็นสื่อการเรียนการสอนทางเลือกหนึ่งที่ใช้พัฒนาการอ่านเชิงวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี เพราะหนังสือส่งเสริมการอ่านเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสอนภาษาและเป็นหนังสือที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการของเด็ก มีรูปภาพสวยงามที่เร้าความสนใจของนักเรียน (จินตนา ใบกาซูยี,2537)

การสร้างหนังสืออ่านเพิ่มเติมที่ดี ต้องคำนึงถึงหลักการและทฤษฏีที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ โดยทฤษฎีการเรียนรู้ที่สำคัญและควรคำนึงถึงได้แก่ ทิศนา แขมมณี(2550 :64-68) ได้สรุปทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา (Intellectual Development Theory) ของเพียเจต์ (Piaget) ได้ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการอย่างไร ทฤษฎีของเพียเจต์ตั้งอยู่บนรากฐานของทั้งองค์ประกอบที่เป็นพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เขาอธิบายว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญา ซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่า สามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เพียเจต์เน้นความสำคัญของการเข้าใจธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กมากกว่าการกระตุ้นเด็กให้มีพัฒนาการเร็วขึ้น เพียเจต์สรุปว่า พัฒนาการของเด็กสามารถอธิบายได้โดยลำดับระยะพัฒนาทางชีววิทยาที่คงที่ แสดงให้ปรากฏโดยปฏิสัมพันธ์ของเด็กกับสิ่งแวดล้อม และ บรูนเนอร์ (Bruner) เชื่อว่า การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ซึ่งนำไปสู่การค้นพบการแก้ปัญหา บรูนเนอร์ เรียกว่า เป็นวิธีการเรียนรู้โดยการค้นพบ (Discovery Approach) หรือนักการศึกษาบางท่านนิยมเรียกว่าการเรียนรู้ด้วยการสอบสืบ (Inquiry learning) แต่นักการศึกษาบางท่านได้ให้ความแตกต่างของการเรียนรู้โดยการค้นพบและการเรียนรู้แบบการสอบสืบแตกต่างกันคือ การเรียนรู้โดยการค้นพบครูเป็นผู้จัดสิ่งแวดล้อมให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งที่จะให้นักเรียนเรียนรู้ และวัตถุประสงค์ของบทเรียนพร้อมด้วยคำถาม โดยตั้งความคาดหวังว่านักเรียนจะเป็นผู้ค้นพบคำตอบด้วยตนเอง ส่วนการเรียนรู้ด้วยการสอบสืบมีวัตถุประสงค์ที่จะฝึกนักเรียนให้เป็นผู้ที่สามารถชี้ว่าปัญหาคืออะไร จากข้อมูลที่มีอยู่และหาวิธีว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไรโดยใช้ข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่

การจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านตันหยง ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร นักเรียนมีปัญหาทางด้านการเขียนสะกดคำไม่ถูกต้องและอ่านไม่เป็น ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่ำมีผลต่อการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นอีกด้วย

จากเหตุผลดังกล่าว ในฐานะครูผู้สอนภาษาไทยจึงมองเห็นความสำคัญและมีความต้องการอย่างมากในการสร้างหนังสือส่งเสริมการอ่าน อันเป็นเครื่องมือที่จะช่วยการเรียนรู้ตัวเองได้เป็นอย่างดี ผู้วิจัยมีความสนใจสร้างหนังสือส่งเสริมการอ่านชุด มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน ทั้งยังมีความรู้ที่กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนได้และเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และเป็นข้อมูลในการพัฒนาหรือการสร้างหนังสือส่งเสริมการอ่านที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป

วัตถุประสงค์การวิจัย

1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกดของนักเรียนชั้นประถม

ศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80

2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน

ชุดมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2โรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอยะหา จังหวัดยะลาก่อนเรียนและหลังเรียนปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอยะหา ตำบลบาโร๊ะจังหวัดยะลา

3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

สมมติฐานการทดลอง

1. หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิ

ภาพตามเกณฑ์ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ด้านการอ่านของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี

ที่ 2 ที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการ

เรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับ มากที่สุด

ขอบเขตของการทดลอง

1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

1.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านตันหยง

อำเภอยะหา จังหวัดยะลา จำนวน 54 คน

1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ห้อง1 โรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอยะหา จังหวัดยะลาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 26 คนได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง

2. ขอบเขตด้านเนื้อหา

หนังสือส่งเสริมการอ่าน หนังสือส่งเสริมการอ่านที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นการนำคำใหม่จากหนังสือเรียนภาษาไทยชุดพื้นฐานทางภาษา หนังสือวรรณคดีลำนำ หนังสือภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มาจำแนกเป็นหนังสือส่งเสริมการอ่าน จำนวน 8 เล่ม ประกอบด้วย

เล่มที่ 1 แม่นกกับลูกนกทั้งหก

เล่มที่ 2ฟารุด – ฟิตเดาส์

เล่มที่ 3 กบกับตะขาบ

เล่มที่ 4 โรงเรียนของฉัน

เล่มที่ 5 แม่กุญแจตามหาลูก

เล่มที่ 6 กินขนมอะไรดี

เล่มที่ 7 ตามีกับยายมา

เล่มที่ 8 เที่ยวสวนสัตว์

3. ขอบเขตด้านตัวแปร

ตัวแปรที่ศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่

2.1 ตัวแปรต้น ได้แก่ หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้

ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 เล่ม ได้แก่

เล่มที่ 1 แม่นกกับลูกนกทั้งหก

เล่มที่ 2ฟารุด – ฟิตเดาส์

เล่มที่ 3 กบกับตะขาบ

เล่มที่ 4 โรงเรียนของฉัน

เล่มที่ 5 แม่กุญแจตามหาลูก

เล่มที่ 6 กินขนมอะไรดี

เล่มที่ 7 ตามีกับยายมา

เล่มที่ 8 เที่ยวสวนสัตว์

2.2 ตัวแปรตาม ได้แก่

2.2.1 ประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา

2.2.2ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา

4. ขอบเขตด้านเวลา

ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง ทำการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ใช้เวลาในการทดลอง 3 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 6 ชั่วโมง รวม 18 ชั่วโมง และเพิ่มเวลาในการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนอีก 2 ชั่วโมง รวมเวลาทั้งหมด 20 ชั่วโมง

กรอบแนวคิดการวิจัย

นิยามศัพท์ที่ใช้ในการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้ศัพท์บางคำในความหมายของขอบเขตต่อไปนี้

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ผลของคะแนนที่นักเรียนทำได้ จากการทำแบบทดสอบวัดผล

สัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่าน เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 30 ข้อ ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นโดยผ่านการตรวจหาประสิทธิภาพแล้ว

2. แบบทดสอบ หมายถึง

2.1 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน เป็นปรนัยแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ

2.2 แบบทดสอบย่อยใช้ทดสอบก่อนและหลังการเรียนหนังสือส่งเสริมการอ่าน เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความ ชุดมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 รายเล่ม 8 เล่ม เป็นปรนัยแบบเลือกตอบ 3ตัวเลือก เรื่องละ 10 ข้อ

หนังสือส่งเสริมการอ่าน หมายถึง หนังสือที่ผู้วิจัยจัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน ส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน พัฒนาทักษะการอ่านให้นักเรียน ชุดมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 เล่ม ได้แก่

เล่มที่ 1 แม่นกกับลูกนกทั้งหก

เล่มที่ 2ฟารุด – ฟิตเดาส์

เล่มที่ 3 กบกับตะขาบ

เล่มที่ 4 โรงเรียนของฉัน

เล่มที่ 5 แม่กุญแจตามหาลูก

เล่มที่ 6 กินขนมอะไรดี

เล่มที่ 7 ตามีกับยายมา

เล่มที่ 8 เที่ยวสวนสัตว์

3. ประสิทธิภาพของหนังสือหมายถึง คุณภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาการอ่านจับ

ใจความ ชุดมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยพิจารณาจากคะแนนที่นักเรียนกลุ่มตัวอย่างทำแบบฝึกหัดท้ายเล่ม หลังการอ่าน และทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 80/80

80 ตัวแรก หมายถึง คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่ได้จากการทำแบบฝึกท้ายเล่มหลังการอ่านหนังสือส่งเสริมการอ่าน คิดเป็นร้อยละไม่ต่ำกว่า 80 ของคะแนนทั้งหมด

80 ตัวหลัง หมายถึง คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่ได้จากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการอ่าน คิดเป็นร้อยละไม่ต่ำกว่า 80 ของคะแนนทั้งหมด

4. การอ่าน หมายถึง การอ่านเนื้อหาในหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด

5. มาตราตัวสะกด หมายถึงเป็นพยัญชนะที่ใช้บังคับเสียงท้ายคำ หรือ พยัญชนะที่ประกอบอยู่

ท้ายสระ และมีเสียงประสมเข้ากับสระ มาตราตัวสะกดมีอยู่ 8 แม่ ได้แก่ มาตราแม่กง มาตราแม่กน มาตราแม่กม มาตราแม่เกย มาตราแม่เกอว มาตราแม่กก มาตราแม่กด มาตราแม่กบ

6. ความพึงพอใจของนักเรียน หมายถึง การแสดงความคิดเห็นของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

หลังการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นทั้ง 8 เล่ม และนำไปหาคุณภาพแล้ว

7. นักเรียน หมายถึง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอยะหา จังหวัด

ยะลา

8. โรงเรียน หมายถึง โรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่

การศึกษายะลา เขต 2

9. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง

9.1 คะแนนที่นักเรียนได้จากากรทำแบบทดสอบความรู้ก่อนและหลังเรียน จากหนังสือส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความ ชุดมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 30 ข้อ

9.2 คะแนนทดสอบความรู้จากหนังสือส่งเสริมการอ่านรายเล่ม เล่มละ 10 ข้อ จำนวน 8 เล่ม

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้หนังสือส่งเสริมการอ่านที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 จำนวน 8 เล่ม

2. ได้แบบฝึกเพื่อพัฒนาการอ่านจากหนังสือส่งเสริมการอ่านที่มีประสิทธิภาพ

3. นักเรียนนำทักษะที่รับการฝึกฝนไปใช้ประโยชน์ในการเรียนวิชาภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยสูงขึ้น

5. ใช้เป็นแนวทางให้แก่คณะครูในการจัดทำหนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

และกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ทั้งในโรงเรียน และโรงเรียนอื่นๆ รวมทั้งผู้ศึกษาดูงาน

โพสต์โดย ษิณีชา แสงสว่าง : [18 ก.ค. 2559 เวลา 12:39 น.]
อ่าน [5614] ไอพี : 182.232.80.81
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,445 ครั้ง
ศัลยกรรมพลิกชีวิต ในรายการวีไอพี
ศัลยกรรมพลิกชีวิต ในรายการวีไอพี

เปิดอ่าน 26,923 ครั้ง
สำนักวิชาการฯ สพฐ. เปิดให้ดาวน์โหลด "แบบฝึกคิดเลขในใจ"
สำนักวิชาการฯ สพฐ. เปิดให้ดาวน์โหลด "แบบฝึกคิดเลขในใจ"

เปิดอ่าน 2,900 ครั้ง
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

เปิดอ่าน 631 ครั้ง
อนุญาต หรือ อนุญาติ
อนุญาต หรือ อนุญาติ

เปิดอ่าน 99,026 ครั้ง
เปรียบเทียบข้อแตกต่าง ป.ตรี 5 ปี กับ ป.ตรี 4 ปี ในการสอบบรรจุครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ครั้งที่ 1/2560
เปรียบเทียบข้อแตกต่าง ป.ตรี 5 ปี กับ ป.ตรี 4 ปี ในการสอบบรรจุครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ครั้งที่ 1/2560

เปิดอ่าน 15,259 ครั้ง
‘ครู’กับ‘ศิษย์’ ใกล้ชิดแค่ไหน? จึงจะ‘พอดี’ : โดย รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
‘ครู’กับ‘ศิษย์’ ใกล้ชิดแค่ไหน? จึงจะ‘พอดี’ : โดย รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์

เปิดอ่าน 12,089 ครั้ง
คำสัญญาที่ว่างเปล่า
คำสัญญาที่ว่างเปล่า

เปิดอ่าน 9,467 ครั้ง
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?

เปิดอ่าน 19,687 ครั้ง
ไขปริศนา ทำไม "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ชอบใส่เสื้อ"เหมือนกัน"ทุกวัน
ไขปริศนา ทำไม "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ชอบใส่เสื้อ"เหมือนกัน"ทุกวัน

เปิดอ่าน 132,443 ครั้ง
โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 15,511 ครั้ง
เคล็ดลับในการเริ่มบทสนทนาภาษาอังกฤษที่น่าสนใจกับเจ้าของภาษาที่ใครๆ ก็ทำได้
เคล็ดลับในการเริ่มบทสนทนาภาษาอังกฤษที่น่าสนใจกับเจ้าของภาษาที่ใครๆ ก็ทำได้

เปิดอ่าน 14,125 ครั้ง
เคล็ดลับน่ารู้วิธีเลิกติดกาแฟ
เคล็ดลับน่ารู้วิธีเลิกติดกาแฟ

เปิดอ่าน 5,835 ครั้ง
แนะวิธีเลี้ยงผึ้งโพรงสำหรับเกษตรกรมือใหม่
แนะวิธีเลี้ยงผึ้งโพรงสำหรับเกษตรกรมือใหม่

เปิดอ่าน 16,954 ครั้ง
"อะเจย์ ปุริ" เด็กอัจฉริยะไอทีระดับโลกในเมืองไทย
"อะเจย์ ปุริ" เด็กอัจฉริยะไอทีระดับโลกในเมืองไทย

เปิดอ่าน 47,142 ครั้ง
พืชสมุนไพรพื้นบ้าน
พืชสมุนไพรพื้นบ้าน

เปิดอ่าน 10,773 ครั้ง
เด็กชายใช้เงินหมดทุกสัปดาห์ พ่อสงสัยแอบตามสืบ แต่กลับพบสิ่งไม่คาดคิด
เด็กชายใช้เงินหมดทุกสัปดาห์ พ่อสงสัยแอบตามสืบ แต่กลับพบสิ่งไม่คาดคิด
เปิดอ่าน 14,583 ครั้ง
เจ๋ง! วิธีทำหน้าจอคอมฯ ให้มีแต่คนที่ใส่แว่นเท่านั้นที่เห็น
เจ๋ง! วิธีทำหน้าจอคอมฯ ให้มีแต่คนที่ใส่แว่นเท่านั้นที่เห็น
เปิดอ่าน 13,108 ครั้ง
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม
เปิดอ่าน 22,509 ครั้ง
คู่มือ/แนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน
คู่มือ/แนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 109,164 ครั้ง
ครูกับการจัดการเรียนการสอน
ครูกับการจัดการเรียนการสอน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ