ครูบ้านนอก

ชื่องานวิจัย การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรม Visual Basic 2013 เบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนลุ่มลำชีนิรมิตวิทยา โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์

ชื่อผู้วิจัย นายสุมิตร หล่มศักดิ์

ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง การเขียนโปรแกรม Visual Basic 2013 เบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนลุ่มลำชีนิรมิตวิทยา ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนโปรแกรม Visaul Basic 2013 เบื้องต้น โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง การเขียนโปรแกรม Visaul Basic 2013 เบื้องต้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนลุ่มลำชีนิรมิตวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์และแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนโปรแกรม Visual Basic 2013 เบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง การเขียนโปรแกรม Visaul Basic 2013 เบื้องต้น สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ และ ค่า dependent t-test ผลการวิจัยพบว่า

1) ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง การเขียนโปรแกรม Visual Basic 2013 เบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น พบว่า มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 87.89/88.67 และมีดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.72 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2) การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 26.60 คะแนน สูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม 30 คะแนน เท่ากับ 24 คะแนน มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.67 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.27 อยู่ในระดับมาก ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,241 ครั้ง กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน	เปิดอ่าน 55,053 ครั้ง เลี้ยง-เล่นอย่างสร้างสรรค์ “สมาธิสั้น” รับมือได้	เปิดอ่าน 16,488 ครั้ง เพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย เวอร์ชั่น "ป้อม อัสนี โชติกุล"
เปิดอ่าน 14,670 ครั้ง วินโดวส์วิสต้าน่าใช้ยังไง?	เปิดอ่าน 12,625 ครั้ง คู่มือและแนวทางปฎิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2560)	เปิดอ่าน 13,130 ครั้ง กรุงเทพฯ กับ บางกอก
เปิดอ่าน 10,527 ครั้ง ปริญญาโทกับคนทำงาน .สำคัญจริงหรือ?	เปิดอ่าน 3,034 ครั้ง "หมอเฉลิมชัย" พบสูตรวัคซีนรับมือโอมิครอน เพิ่มภูมิได้เพิ่มขึ้น 29-33 เท่า	เปิดอ่าน 19,078 ครั้ง เกมส์แต่งตัว
เปิดอ่าน 13,822 ครั้ง วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว	เปิดอ่าน 13,802 ครั้ง เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ในแต่ละปี	เปิดอ่าน 10,778 ครั้ง บัตรประชาชนทายรัก
เปิดอ่าน 13,107 ครั้ง ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร	เปิดอ่าน 2,251 ครั้ง "กระชายขาว" สมุนไพรไทยยอดนิยม สรรพคุณเด่น "เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย"	เปิดอ่าน 11,186 ครั้ง กระแสออกกำลังกายเท้าเปล่ามาแรง

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory