ชื่องานวิจัย การพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา
ชื่อผู้วิจัย นายบุญรอด แสงสว่าง
ชื่อหน่วยงาน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ปีที่วิจัย พ.ศ.2559
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการ เรื่องการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาบุคลากรศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้สามารถเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ตามแนวคิดของ เคมมิส และแม็กแท็กการ์ท (Kemmis and McTaggart) ดำเนินการ 2 วงรอบ แต่ละวงรอบ ประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) กลุ่มผู้ร่วมวิจัย 14 คน ได้แก่ ผู้วิจัย จำนวน 1 คน และกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 13 คน ประกอบด้วย ข้าราชการครู 3 คน และนักวิชาการวิทยาศาสตร์ศึกษา 10 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 162 คน ประกอบด้วย วิทยากร 1 คน ผู้อำนวยการสถานศึกษา 1 คน และผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 160 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบทดสอบ แบบบันทึก แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบประเมิน และแบบสอบถาม การตรวจสอบข้อมูล ใช้เทคนิคการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation Technique) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา แล้วนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า การพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์การศึกษาดูงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการและการนิเทศภายใน ผลจากการศึกษาดูงาน พบว่า กลุ่มเป้าหมายได้ศึกษาตัวอย่างกิจกรรมวิทยาศาสตร์ สื่อ นิทรรศการฐานการเรียนรู้ต่างๆ พร้อมได้ฝึกปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมสะเต็มศึกษา และร่วมกันสรุปผลจากการศึกษาดูงานได้ว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาได้ ผลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการ พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีพฤติกรรมที่เหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก กลุ่มเป้าหมาย
มีความสนใจในการเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ มีเจตคติที่ดีต่อการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกับผู้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ มีส่วนร่วมทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายในการประชุมเชิงปฏิบัติการและการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น มีการนำข้อเสนอแนะให้ผู้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการได้รับทราบ และมีความตั้งใจที่จะนำผลการประชุมเชิงปฏิบัติการไปใช้ในการจัดกิจกรรมเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จากการทดสอบความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และการสัมภาษณ์ พบว่า กลุ่มเป้าหมายทั้ง 13 คน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพิ่มมากขึ้นทุกคน และจากการประเมินแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ พบว่า แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีองค์ประกอบของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครบถ้วน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผู้เรียนได้เรียนรู้ร่วมกัน และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ มีความถูกต้องเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ ผลจากการนิเทศภายใน พบว่า กลุ่มเป้าหมายทั้ง 13 คน สามารถดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยรวมอยู่ในระดับมาก และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยรวมอยู่ในระดับมาก แต่ยังมีปัญหาบางกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนการสอน ยังไม่สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้เหมาะสมเท่าที่ควร การดำเนินกิจกรรมยังไม่ต่อเนื่อง บางกิจกรรมมีการพัฒนาดีขึ้น แต่บางกิจกรรมยังติดขัดไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร และการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ยังไม่หลากหลาย การเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ความถูกต้องเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก แต่การนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ยังมีส่วนที่บกพร่องอยู่บ้าง จึงต้องพัฒนาในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศภายใน มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม โดยเน้นแก้ไขในส่วนที่เป็นปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย ในวงรอบที่ 1 โดยกลุ่มผู้ร่วมวิจัย ได้ร่วมกันหาวิธีการปรับปรุงพัฒนาและคอยให้คำปรึกษาแนะนำซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด ช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดทุกคน และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้
สรุปได้ว่า การศึกษาดูงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน เป็นกลยุทธ์และกิจกรรมที่มีความเหมาะสมในการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สามารถเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทนำ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 มาตรา 4 ได้กล่าวถึง การศึกษา หมายถึง กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึกอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคมการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต และมาตรา 22 กำหนดไว้ว่าการจัดการศึกษาต้องยึดหลักผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษายึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ เน้นการจัดการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ให้ความสำคัญของการบูรณาการความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสมของระดับการศึกษาโดยเฉพาะความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมทั้งความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์เรื่องการจัดการบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลยั่งยืน (สมจิต สวธนไพบูลย์ และคณะ. 2550 : 1-2)
การจัดการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เน้นกระบวนการที่นักเรียนเป็นผู้คิด ลงมือปฏิบัติ ศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบ ด้วยกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการทำกิจกรรมภาคสนาม การสังเกต การสำรวจ ตรวจสอบ การทดลองในห้องปฏิบัติการ การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูล ปฐมภูมิและทุติยภูมิ การทำโครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น โดยคำนึงถึงวุฒิภาวะ ประสบการณ์เดิมสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมที่นักเรียนได้รับรู้มาแล้วก่อนเข้าสู่ห้องเรียน การเรียนรู้ของนักเรียนจะเกิดขึ้นระหว่างที่นักเรียนมีส่วนร่วมโดยตรง ในการทำกิจกรรมการเรียนเหล่านั้น จึงจะมีความสามารถในการสืบเสาะหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นแนวคิดที่มุ่งให้ผู้เรียนได้มีโอกาสคิดอย่างอิสระเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรู้จากการปฏิบัติของตนเอง ด้วยวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญที่สุด กระทรวงศึกษาธิการได้สรุปเชิงหลักการไว้ว่าการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เอาชีวิตจริงและเงื่อนไขการรับรู้ของผู้เรียนเป็นตัวตั้ง ผู้เรียนมีอิสรภาพได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาเต็มศักยภาพของความเป็นมนุษย์ ทั้งจิตใจ ร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม ผู้เรียนได้รับการพัฒนาแบบองค์รวม ได้รับการฝึกให้มีศักยภาพในการสร้างรูปแบบการคิด ผู้เรียนเป็นผู้กระทำกิจกรรมการเรียนรู้ได้ถูกต้องแม่นยำตามธรรมชาติของวิชา ด้วยความรู้สึกที่ดีงามอันเป็นการสร้างบุคลิกที่ดีงาม คิดเป็นระบบและวิจารณญาณ อยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข เรียนรู้ตลอดชีวิตและเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญไม่ใช่วิธีการเรียนรู้โดยวิธีใดวิธีหนึ่งแต่เป็นกระบวนทัศน์ในการจัดการเรียนรู้ (Learning Paradigm) ซึ่งเอื้อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติของตนเอง โดยใช้ทักษะการจัดการที่มีประสิทธิภาพทั้งของครูและนักเรียน (สุภรณ์ สภาพงศ์. 2545 : 31-32)
สภาพปัจจุบันการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา จากการรายงานผลการประเมินตนเอง (SAR) ของสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2558 พบว่า บุคลากรโดยเฉพาะนักวิชาการวิทยาศาสตร์ศึกษา ส่วนใหญ่มีวุฒิปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) และไม่มีวุฒิทางด้านการศึกษา จึงทำให้ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการนำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ลงสู่การปฏิบัติ ซึ่งได้มีข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาโดยให้สถานศึกษาพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และจากรายงานการประเมินคุณภาพสถานศึกษาโดยต้นสังกัดศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา เมื่อวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2558 พบว่า ผลการประเมินในภาพรวมมีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 90.32 มีระดับคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก แต่ได้มีข้อเสนอแนะในการพัฒนาสถานศึกษา ดังนี้ สถานศึกษาควรพัฒนาบุคลากรให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำหลักสูตร การจัดทำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ
จากเหตุผลดังกล่าวดังกล่าว ผู้วิจัยในฐานะที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพในด้านการแสวงหาความรู้กระบวนการทำงาน ทักษะต่างๆ และยังได้ฝึกลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์หลายๆ ด้าน แทนที่จะเน้นด้านความรู้เพียงด้านเดียว เป็นกิจกรรมการเรียนรู้อีกแบบหนึ่งที่จะให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีการปฏิบัติจริงในลักษณะของการศึกษา สำรวจ ทดลอง ค้นคว้า ประดิษฐ์ คิดค้น โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนำและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปบูรณาการกับกิจกรรมที่จะทำเพื่อนำไปสู่ความรู้ใหม่ๆ ด้วยการสร้างความหมาย การแก้ปัญหาและการค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง ได้ศึกษาสภาพปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูผู้สอน ประกอบกับหลักการและเหตุผลดังกล่าวข้างต้นแล้วจึงเห็นว่าการพัฒนาบุคลากรเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาสถานศึกษา โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมุ่งหวังเพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ค่ายวิทยาศาสตร์ของบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ได้มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมุ่งหวังเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณสมบัติตามหลักสูตรของสถานศึกษา และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของบุคลากรให้เป็นไปอย่างมีระบบ เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียนและจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป
ความมุ่งหมายของการวิจัย
ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้กำหนดความมุ่งหมายของการวิจัย ไว้ดังนี้
1. เพื่อพัฒนาบุคลากรศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
2. เพื่อพัฒนาบุคลากรศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา ให้สามารถเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้
3. เพื่อพัฒนาบุคลากรศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้
กลุ่มเป้าหมายของการวิจัย
การพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มเป้าหมายดังนี้
1. กลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 14 คน ประกอบด้วย
1.1 ผู้วิจัย ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานศึกษา
1.2 กลุ่มเป้าหมายและผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 13 คน ประกอบด้วย ข้าราชการครู 3 คนนักวิชาการวิทยาศาสตร์ศึกษา 10 คน
2. กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการวิจัย จำนวน 162 คน ประกอบด้วย วิทยากร 1 คน ผู้อำนวยการสถานศึกษา 1 คน และผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2559 ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 จำนวน 160 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
วิธีดำเนินการวิจัย
ในการวิจัยครั้งนี้ ใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ตามแนวคิดของ เคมมิส และแม็กแท็กการ์ท (Kemmis and McTaggart. 1988 : 11-15 ; อ้างถึงใน พินันทร์ คงคาเพชร. 2552 : 41) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นการวางแผน (Planning) ขั้นการปฏิบัติ (Action) ขั้นการสังเกต (Observation) และขั้นการสะท้อนผล (Reflection) ให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สามารถเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้
1. ขั้นการวางแผน (Planning)
1.1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการในการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา ว่ามีปัญหาและสาเหตุมาจากสิ่งใดบ้าง เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ร่วมกันเป็นข้อมูลพื้นฐาน ใช้เป็นแนวทางและวิธีการแก้ปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบ
1.2 เป้าหมายและกลยุทธ์การพัฒนา เพื่อให้การพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา บรรลุผลตามเป้าหมาย คือ ให้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา ดังนี้ การศึกษาดูงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน
1.3 กำหนดแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ในการดำเนินการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา โดยระบุกิจกรรมที่ต้องดำเนินการ เป้าหมายของแต่ละกิจกรรม ระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรม ผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรม วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล แหล่งข้อมูล
2. ขั้นการปฏิบัติ (Action)
กลุ่มผู้ร่วมวิจัย ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ (Action Pan) เพื่อพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดังนี้
2.1 การศึกษาดูงาน วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 และวันที่ 14 มีนาคม 2559
2.2 การประชุมเชิงปฏิบัติการ ดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 2 วัน ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม 2559 ณ ห้องประชุมจันทร์ประดับ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา ได้เชิญวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญมาบรรยาย พร้อมฝึกปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนการจัดทำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2.3 การนิเทศภายใน การนำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สู่การปฏิบัติ โดยกิจกรรมการประชุมกลุ่ม การติดตามช่วยเหลือ โดยผู้วิจัยเป็นผู้นิเทศคอยให้คำปรึกษา แนะนำ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
3. ขั้นการสังเกตผล (Observation)
กิจกรรมการศึกษาดูงาน เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการสังเกต การสัมภาษณ์ และการบันทึกสรุปผลการศึกษาดูงาน กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการทดสอบก่อนและหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ การสังเกตพฤติกรรม และสัมภาษณ์และประเมินแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกิจกรรมการนิเทศภายใน เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบสอบถามความพึงพอใจ และแบบประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
4. การสะท้อนผล (Reflection)
ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ โดยผลการสัมภาษณ์ผู้เรียน การประชุมปรึกษาหารือผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสรุปผลการดำเนินการแต่ละขั้นตอนการดำเนินการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
1. แบบทดสอบ จำนวน 1 ฉบับ ใช้ทดสอบความรู้ก่อนและหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
2. แบบบันทึก จำนวน 1 ฉบับ ใช้บันทึกสรุปผลและอภิปรายผลจากการศึกษาดูงานของกลุ่มเป้าหมาย
3. แบบสังเกต จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 ใช้สังเกตพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างการศึกษาดูงาน ฉบับที่ 2 ใช้สังเกตพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายขณะประชุมเชิงปฏิบัติการและ ฉบับที่ 3 ใช้สังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย ในระหว่างการนิเทศภายใน
4. แบบสัมภาษณ์ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 เป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างใช้สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายหลังจากการศึกษาดูงานเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ฉบับที่ 2 เป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ใช้สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ
5. แบบประเมิน จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 ใช้ประเมินแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ฉบับที่ 2 ใช้ประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
6. แบบสอบถาม จำนวน 1 ฉบับ ใช้สอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย
สรุปผล
การพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา ผู้วิจัยดำเนินการพัฒนาโดยใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ตามแนวคิดของ เคมมิส และแม็กแท็กการ์ท (Kemmis and McTaggart) กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ การศึกษาดูงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ดำเนินการพัฒนาเป็น 2 วงรอบ สรุปผลการพัฒนาได้ดังนี้
การพัฒนาในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์การศึกษาดูงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ผลจากการศึกษาดูงาน พบว่า กลุ่มเป้าหมายได้ศึกษาตัวอย่างกิจกรรมวิทยาศาสตร์ สื่อ นิทรรศการฐานการเรียนรู้ต่างๆ พร้อมได้ฝึกปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมสะเต็มศึกษา และร่วมกันสรุปผลจากการศึกษาดูงานได้ว่า สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาได้ และมีข้อเสนอให้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำหลักสูตรวิทยาศาสตร์ จัดทำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการ พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีพฤติกรรมที่เหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก กลุ่มเป้าหมายมีความสนใจในการเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ มีเจตคติที่ดีต่อการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกับผู้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ มีส่วนร่วมทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายในการประชุมเชิงปฏิบัติการและการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น มีการนำข้อเสนอแนะให้ผู้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการได้รับทราบ และมีความตั้งใจที่จะนำผลการประชุมเชิงปฏิบัติการไปใช้ในการจัดกิจกรรมเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จากการทดสอบความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และการสัมภาษณ์ พบว่า กลุ่มเป้าหมายทั้ง 13 คน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพิ่มมากขึ้นทุกคน และจากการประเมินแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ พบว่า แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีองค์ประกอบของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครบถ้วนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผู้เรียนได้เรียนรู้ร่วมกัน และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ มีความถูกต้องเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ ผลจากการนิเทศภายใน พบว่า กลุ่มเป้าหมายทั้ง 13 คน สามารถดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยรวมอยู่ในระดับมาก และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยรวมอยู่ในระดับมาก แต่ยังมีปัญหาบางกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนการสอน ยังไม่สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้เหมาะสมเท่าที่ควร การดำเนินกิจกรรมยังไม่ต่อเนื่อง บางกิจกรรมมีการพัฒนาดีขึ้น แต่บางกิจกรรมยังติดขัดไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร และการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ยังไม่หลากหลาย การเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีความถูกต้องเหมาะสม โดยรวมอยู่ในระดับมาก แต่การนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ยังมีส่วนที่บกพร่องอยู่บ้าง จึงต้องพัฒนาในวงรอบที่ 2 ต่อไป
การพัฒนาในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์ การนิเทศภายใน ใช้ในการพัฒนามีการนิเทศ กำกับ ติดตาม โดยเน้นแก้ไขในส่วนที่เป็นปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย ในวงรอบที่ 1 โดยกลุ่มผู้ร่วมวิจัยได้ร่วมกันหาวิธีการปรับปรุงพัฒนาและคอยให้คำปรึกษาแนะนำซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด ช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดทุกคน และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้
อภิปรายผล
การพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา โดยใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ การศึกษาดูงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ดำเนินการพัฒนาเป็น 2 วงรอบ เมื่อครบ 2 วงรอบแล้ว ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สามารถเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ น้ำเพชร ทับชา (2557 : 83-84)
ได้ศึกษาการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โรงเรียนอนุบาลแกดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม ขต 1 โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการ พบว่า ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพิ่มขึ้น นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกิจกรรมการเรียนเป็นอย่างดี และมีความสุขในการเรียน ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ง่ายขึ้น กลุ่มผู้ร่วมวิจัยทุกคนมีความพอใจในการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้และมีความสนใจ กระตือรือร้น
มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเป็นอย่างดี สอดคล้องกับผลการวิจัยของ นงลักษณ์ นนตระอุดร (2555 : 159-165) ได้ทำการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาศักยภาพครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551โรงเรียนแวงพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 23 แนวทางการพัฒนาคือการประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายในและการนิเทศภายในแบบกัลยาณมิตร พบว่า กลุ่มผู้ร่วมวิจัย มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอยู่ในระดับมากที่สุด มีความสามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอยู่ในระดับมากที่สุด
และกลุ่มผู้ร่วมวิจัยสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอยู่ในระดับมากที่สุด และพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับผลการศึกษาของ จงกล ผลประสาท (2553 : 126-129) ได้ศึกษาการพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านยางวิทยา อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้กระบวนการวิจัยปฏิบัติการ กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ การฝึกอบรม การศึกษาดูงานนอกสถานที่ และการนิเทศ พบว่า บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้ สอดคล้องกับผลการศึกษาของบุญเพ็ง ซุยถัง (2553 : 82-85) ได้ศึกษาพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบบูรณาการ โรงเรียนบ้านวังตาลาดสมบูรณ์ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการและการนิเทศ พบว่า ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียนรู้แบบบูรณาการ สามารถเขียนแผนการเรียนรู้แบบบูรณการ และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการทั้ง 6 ขั้นตอนได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับผลการศึกษาของประดิษฐ์ บุญเรืองวัตร (2553 : 100-101) ได้ทำการพัฒนาบุคลากรด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโรงเรียนบ้านเข็งมิตรภาพที่ 139 อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม โดยใช้หลักการวิจัยปฏิบัติการ กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาบุคลากรคือ การศึกษาเอกสาร การประชุมเชิงปฏิบัติการและการนิเทศภายใน พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สามารถเขียนแผนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ สอดคล้องกับผลการวิจัยของ Sturtz (2008 : Unpaged) ได้ทำการวิจัยพัฒนาการปฏิบัติการสอนของครูและความคิดเห็นต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่า การสอนของครูมีการเตรียมแผนการสอน มีการวางแผนการสอน การจัดกิจกรรมการสอนมีการเน้นกิจกรรมให้ผู้เรียนทำ มีการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างครูและนักเรียน นอกจากนี้ครูยังมีการวางแผนสำหรับการเอาใจใส่นักเรียนมากขึ้น สอดคล้องกับผลการศึกษาของ เกษมศักดิ์ ฆ้องลา (2552 : 141-142) ได้ศึกษาพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โรงเรียนกุดบงพิทยาคาร อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย โดยใช้กลยุทธ์ การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน พบว่าครูมีความรู้ความเข้าใจและสามารถนำไปเขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ แก้ปัญหาการพัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น สอดคล้องกับผลการศึกษาของ อันทนา เข็มพิมาย (2552 : 77-83) ได้ศึกษาการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนบ้านคูเมือง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา
โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน การนิเทศภายใน พบว่า ครูมีความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ครูสามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานและนำแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานไปปฏิบัติการสอนได้ ทำให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง
จากการใช้กลยุทธ์การศึกษาดูงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน
ในการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครราชสีมา ให้มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้วนั้น สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้
1. จากการใช้กลยุทธ์การศึกษาดูงาน โดยมีการศึกษาดูตัวอย่างกิจกรรมวิทยาศาสตร์ สื่อ นิทรรศการ ฐานการเรียนรู้ต่างๆ พร้อมฝึกปฏิบัติกิจกรรมบูรณาการทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมสะเต็มศึกษา และร่วมกันสรุปผลจากการศึกษาดูงานได้ว่า จากการที่ได้ไปศึกษาดูงาน สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาได้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า การนำพาบุคลากรไปดูการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เห็นว่ามีผลการปฏิบัติงานดีเด่น เพื่อให้บุคลากรได้รับประสบการณ์ตรงเกิดทัศนคติในการปฏิบัติงานและนำความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ในหน่วยงานและพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มคุณภาพให้ดียิ่งขั้น นอกจากนี้ยังเป็นวิธีการให้ขวัญกำลังใจแก่บุคลากร ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของสมจินตนา ภักศรีวงศ์ (2540 : 81) ที่กล่าวไว้ว่า การศึกษาดูงานเป็นกระบวนการทางการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มมวลประสบการณ์แก่บุคลากรในหน่วยงานให้ได้รับความรู้ความเข้าใจรับคำปรึกษาแนะนำ หรือวิธีการแนวทาง ตลอดจนรูปแบบต่างๆ ในการนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสภาพของตน และหน่วยงาน ทั้งนี้ เพื่อการปรับปรุงพัฒนางานให้เกิดประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นและเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรให้ได้มีสัมพันธภาพที่ดี ทั้งกับบุคคลในหน่วยงานเดียวกันและหน่วยงานอื่นๆ ทำให้เกิดวิสัยทัศน์กว้างไกล มองเห็นแนวทางและวิธีการที่จะส่งเสริมงานให้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (2540 : 102) ที่ระบุไว้ว่า การดูงานนอกสถานที่ไว้ว่าเป็นการพาบุคลากรไปทัศนศึกษาดูงานในหน่วยงานหรือองค์การต่างๆ ที่ปฏิบัติงานดีเด่นด้านใด ด้านหนึ่ง เพื่อให้บุคลากรเกิดวิสัยทัศน์ แนวคิดที่จะนำมาปรับปรุงมาพัฒนางานของตน นอกจากนี้การไปศึกษาดูงานยังช่วยให้บุคลากรเกิดความสัมพันธ์มีความรู้สึกที่ดีต่อกันเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและลดปัญหาความขัดแย้งในองค์การได้ด้วย และสอดคล้องกับแนวคิดของ สมิต สัชฌุกร (2543 : 45) ที่กล่าวไว้ว่า การศึกษาดูงาน เป็นการการพาบุคลากรไปทัศนศึกษาดูงานในหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ที่ปฏิบัติงานดีเด่น ด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้บุคลากรเกิดวิสัยทัศน์ แนวคิดที่จะนำมาปรับปรุงและพัฒนางานของตน
2. จากการใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยกิจกรรมการบรรยายของวิทยากร และการฝึกปฏิบัติตามกิจกรรม พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีพฤติกรรมที่เหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก กลุ่มเป้าหมายมีความสนใจในการเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ มีเจตคติที่ดีต่อการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกับผู้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ มีส่วนร่วมทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายในการประชุมเชิงปฏิบัติการและการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น มีการนำข้อเสนอแนะให้ผู้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการได้รับทราบและมีความตั้งใจที่จะนำผลการประชุมเชิงปฏิบัติการไปใช้ในการจัดกิจกรรมเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จากการทดสอบความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และการสัมภาษณ์ พบว่า กลุ่มเป้าหมายทั้ง 13 คน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพิ่มมากขึ้นทุกคน และจากการประเมินแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ พบว่า แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีองค์ประกอบของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครบถ้วน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผู้เรียนได้เรียนรู้ร่วมกัน และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ มีความถูกต้องเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการ ช่วยให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับความรู้ และได้ฝึกทักษะตามขั้นตอน กระบวนการทำงานที่ต้องกลับไปปฏิบัติจริงผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้รับฟังข้อเสนอแนะจากผู้เข้ารับการอบรมด้วยกันจากวิทยากร ทำให้สามารถปรับปรุงการทำงานให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความมั่นใจที่จะนำความรู้ไปปฏิบัติจริง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรมด้วยกันและวิทยากร และสร้างบรรยากาศในความร่วมมือการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และการประชุมเชิงปฏิบัติการ สามารถช่วยปรับปรุงการเรียนการสอนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ทั้งด้านเนื้อหา กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อการเรียน ปัญหาการเรียนการสอนต่างๆ และปรับปรุงคุณภาพการศึกษาตามที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวคิดของ สมคิด บางโม (2545 : 92) ที่กล่าวไว้ว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการ เป็นการฝึกอบรมที่ให้ผู้รับการฝึกอบรมได้ปฏิบัติจริง โดยทั่วไปจะมีการบรรยายให้ความรู้พื้นฐานก่อนแล้วจึงลงมือปฏิบัติ อาจเป็นการฝึกการใช้เครื่องมือใหม่ๆ ประชุมเพื่อช่วยกันสร้างคู่มือหรือประชุมเพื่อสร้างอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น การปฏิบัตินิยมให้รวมกันเป็นกลุ่มย่อยๆ มากกว่าปฏิบัติเป็นกลุ่มใหญ่หรือรายบุคคล สอดคล้องกับแนวคิดของ สมิต สัชฌุกร (2543 : 16-18) ที่กล่าวไว้ว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการมีประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานร่วมกันเป็นทีม การแสวงหาความร่วมมือและความรับผิดชอบของบรรดาสมาชิก ประโยชน์ที่สำคัญช่วยให้การทำงานทางความคิดร่วมกันช่วยให้เกิดความรับผิดชอบ ผูกพันระหว่างผู้เข้าร่วมประชุมและแบ่งเบาภาระรับผิดชอบช่วยให้มีความรอบคอบในการตัดสินใจ ช่วยให้การรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องมีความกว้างขวางครอบคลุม ช่วยในการประสานงาน ประสานความคิดเห็น และความเข้าใจช่วยให้มีการหยั่งความคิดเห็นใหม่ๆ ในวิธีการต่างๆ และมีโอกาสรับฟังความคิดเห็นของบุคคลหลายๆ คน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการ เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาบุคลากรระหว่างผู้บริหารกับครูผู้สอน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยใช้เทคนิคและวิธีการที่หลากหลาย เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายและวิธีการได้เอง
3. จากการใช้กลยุทธ์การนิเทศภายใน โดยกิจกรรมการประชุมกลุ่ม กำกับ ติดตาม ช่วยเหลือ และคอยให้คำปรึกษาแนะนำซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด ผลการนิเทศภายใน พบว่า กลุ่มเป้าหมาย สามารถดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกคน และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า การนิเทศภายในโดยกิจกรรมการประชุมกลุ่ม การติดตามช่วยเหลือ และคอยให้คำปรึกษาแนะนำซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างครูกับผู้นิเทศ โดยมีความสัมพันธ์ที่มุ่งช่วยเหลือกัน ผสมผสานกับการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เชื่อใจไว้ใจกันเพื่อช่วยเหลือปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของตนเองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากมีความเชื่อที่ว่าผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ ต่างก็อยู่ในหน่วยงานการศึกษาเดียวกัน ย่อมสามารถวิเคราะห์ผลการจัดการเรียนการสอน เพื่อหาจุดที่ยังเป็นปัญหาหรือจุดที่ต้องพัฒนา ตลอดจนวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาได้ตรงกับสภาพความเป็นจริงได้ดี การนิเทศจึงเน้นการร่วมมือระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับนิเทศ ช่วยให้เกิดการยอมรับสภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาที่ร่วมในคิดค้น ทำให้เกิดความเต็มใจปฏิบัติงานแนวทางการพัฒนางาน ซึ่งได้ร่วมกันกำหนดไว้ ทำให้การนิเทศได้ผลดีมากกว่าการชี้แนะจากบุคคลภายนอก สอดคล้องกับแนวคิดของสุรศักดิ์ ศิริ (2550 : 62) ที่กล่าวไว้ว่า การนิเทศภายใน เป็นการให้คำแนะนำ เสนอแนะสนับสนุนของผู้บริหารโรงเรียนหรือบุคลากรภายในโรงเรียน เพื่อให้ครูภายในโรงเรียนได้พัฒนาหลักสูตรจนเกิดประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนด้วยกระบวนการต่างๆ ในการจัดการเรียนการสอนของครู และการบริหารจัดการของผู้บริหารโรงเรียน และสอดคล้องกับแนวคิดของ สายันต์ วะเกิดเป้ง (2554 : 80) ที่กล่าวไว้ว่า การนิเทศภายในเป็นกระบวนการชี้แนะ แนะนำช่วยเหลือ สนับสนุน การให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาโดยยึดหลักประชาธิปไตย การปรับปรุง การนำ (Leading) การอำนวยการหรือการสั่งการ (Directing) การประสานงาน (Co-ordinating) แก่ครู ผู้บริหารในการดำเนินกิจกรรมทุกอย่างในสถานศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนการสอนให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามหลักสูตร และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2545
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะเพื่อการนำไปใช้
1.1 สถานศึกษา ควรนำหลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการมาพัฒนาสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง และพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
1.2 สถานศึกษา ควรส่งเสริมให้บุคลากรไปศึกษาดูงานด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
1.3 สถานศึกษา ควรส่งเสริมให้บุคลากรผลิตสื่อหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทันสมัยมาใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
1.4 สถานศึกษา ควรมีการนิเทศภายในอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบเพื่อกระตุ้นให้บุคลากรเกิดการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่องและเกิดการพัฒนามากขึ้น
1.5 สถานศึกษา ควรมีการเผยแพร่ความรู้ และเทคนิควิธีการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญไปยังสถานศึกษาแห่งอื่นๆ เพื่อพัฒนาเครือข่าย ความร่วมมือด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
2. ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรมีการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของบุคลากรในรูปแบบต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน
2.2 ควรทำการวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสอนของบุคลากรในสถานศึกษา
2.3 ควรทำการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรด้านการวัดผลประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2.4 ควรทำการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โดยใช้กระบวนการสะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่เน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง
2.5 ควรมีการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
เอกสารอ้างอิง
เกษมศักดิ์ ฆ้องลา. การพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
โรงเรียนกุดบงพิทยาคาร อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย. การศึกษาค้นคว้าอิสระ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม,
2552.
จงกล ผลประสาท. การพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยยึดหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านยางวิทยา อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา. การศึกษา
ค้นคว้าอิสระ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาสารคาม :
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2553.
นงลักษณ์ นนตระอุดร. การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาศักยภาพครูด้นการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 โรงเรียนแวงพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 23. วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 2555.
น้ำเพชร ทับชา. การพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โรงเรียนอนุบาล
แกดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1. วิทยานิพนธ์
ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย
มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 2557.
บุญเพ็ง ซุยถัง. การพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบบูรณาการ
โรงเรียนบ้านวังตาลาดสมบูรณ์ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ. การศึกษาค้นคว้าอิสระ
ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาสารคาม :
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2553.
ประดิษฐ์ บุญเรืองวัตร. การพัฒนาบุคลากรด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
โรงเรียนบ้านเข็งมิตรภาพที่ 139 อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม.
การศึกษาค้นคว้าอิสระ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2553.
พินันทร์ คงคาเพชร. การวิจัยปฏิบัติการชั้นเรียน. กรุงเทพฯ : แดเน็กซ์ อินเตอร์คอร์เปอเรชั่น,
2552.
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. การบริหารทรัพยากรมนุษย์และทรัพยากรทางการศึกษา.
มหาสารคาม : อภิชาตการพิมพ์, 2540.
สมิต สัชฌุกร. เทคนิคการประชุม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : วิญญูชน, 2543.
สมจิต สวธนไพบูลย์ และคณะ. โครงการวิจัย : การวัดและประเมินผลรูปแบบการเรียนการสอน
ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. ได้รับทุนการสนับสนุนจากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี. กรุงเทพฯ : ศูนย์วิทยาศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2550.
สมจินตนา ภักศรีวงศ์. เอกสารประกอบการประชุมหัวหน้าหน่วยงานประจำปี. กรุงเทพฯ :
กรมสามัญศึกษา, 2540.
สายันต์ วะเกิดเป้ง. การวิจัยเชิงปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาความสามารถของครูด้านการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โรงเรียนบ้านเม่นน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3. วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 2554.
สุรศักดิ์ ศิริ. รายงานการศึกษาการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : ธารอักษร, 2550.
สุภรณ์ สภาพงศ์. การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนสำคัญที่สุด, วารสารวิชาการ. 5 (3) : 31-32 ; มีนาคม, 2545.
อันทนา เข็มพิมาย. การพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานโรงเรียน
บ้านคูเมือง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา. การศึกษาค้นคว้าอิสระ
ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาสารคาม :
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2552.
Kemmis, S. and R. McTaggart. The Action Research Planner. 3 rd. ed. Victoria :
Deakin University Press, 1988.
Sturtz, John P. Exploring a Beginning History Teachers Thinking Though the Phases
of Teaching, Dissertation Abstracts International. 68 (10) : April, 2008.