การพัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยการใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านราษฎร์เจริญ อำเภอนาดี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 2 จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (2) ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 14 เล่ม (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางเรียน เรื่อง สมการและการแก้สมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกที่มีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 (4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ ที่มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา ปรากฏดังนี้
1. ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้ศึกษาได้สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.81 / 83.16 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. ดัชนีประสิทธิผลของชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6832 หมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ ร้อยละ 68.32
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.28 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.71 แสดงว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมาก
สรุปได้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง สมการและการแก้สมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนั้นครูผู้สอนสามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ดีขึ้นได้