ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการเรียนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เ

ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการเรียนตามแนวคิด

ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย นางรำพรวน อินทรา

ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้นักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านโคกนาฝาย อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 11 คน รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) เครื่องมือที่ใช้แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ จำนวน 17 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบบันทึกผลการใช้แผนการจัดกิจกรรมเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร 3) เครื่องมือประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และสรุปเป็นความเรียง

1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง การบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความสนใจ เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจใฝ่เรียนรู้ จากสถานการณ์ที่ผู้วิจัยกำหนดให้ ในขั้นนี้แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และทบทวนความรู้เดิมเพื่อเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ที่จะเรียนต่อไป 2) ขั้นสอน เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ มีขั้นตอนดังนี้ (1) ขั้นเผชิญปัญหาและแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล เป็นขั้นที่นักเรียนแต่ละคนปฏิบัติกิจกรรมจากสถานการณ์ปัญหาที่ครูเตรียมไว้ให้ (2) ขั้นระดมสมองระดับกลุ่มย่อย เป็นขั้นตอนที่นักเรียนรวมกลุ่มและอภิปรายเพื่อหาคำตอบ (3) ขั้นไตร่ตรองระดับกลุ่มใหญ่ เป็นขั้นที่นักเรียนออกมานำเสนอคำตอบหน้าชั้น โดยผู้วิจัยคอยกระตุ้นด้วยคำถามและเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่นอกเหนือจากที่นักเรียนนำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาของนักเรียน 3) ขั้นสรุป นักเรียนช่วยกันสรุปสาระหรือหลักการที่ได้รับ เพื่อเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด และผู้วิจัยช่วยสรุปเพิ่มเติมถ้าเห็นว่านักเรียนสรุปได้ไม่ครอบคลุมเนื้อหา 4) ขั้นฝึกทักษะ นักเรียนทำแบบฝึกทักษะต่างๆ จากสถานการณ์ที่กำหนดให้ด้วยตัวเอง เมื่อสิ้นสุดการเรียนแต่ละครั้ง และ 5) ขั้นประเมินผล ใช้การสังเกตการร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน การตรวจผลงาน หลังจากสิ้นสุดการเรียนในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้

2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 87.27 และมีจำนวนนักเรียนร้อยละ 83.33 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป

โพสต์โดย เอ๋ : [25 มิ.ย. 2559 เวลา 15:37 น.]
อ่าน [67109] ไอพี : 27.55.95.210
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,279 ครั้ง
การซักแห้งดีกว่าการซักน้ำอย่างไร
การซักแห้งดีกว่าการซักน้ำอย่างไร

เปิดอ่าน 13,506 ครั้ง
"ไดเอ็ตแบบไม่โยโย่" แนะกฎเหล็กลดน้ำหนัก
"ไดเอ็ตแบบไม่โยโย่" แนะกฎเหล็กลดน้ำหนัก

เปิดอ่าน 17,308 ครั้ง
การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทางไกลอิเล็กทรอนิกส์
การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทางไกลอิเล็กทรอนิกส์

เปิดอ่าน 10,100 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก

เปิดอ่าน 15,715 ครั้ง
รับประทาน"บร็อคโคลี"ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบได้
รับประทาน"บร็อคโคลี"ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบได้

เปิดอ่าน 43,547 ครั้ง
ความสำคัญและความจำเป็นของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
ความสำคัญและความจำเป็นของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน

เปิดอ่าน 6,814 ครั้ง
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ

เปิดอ่าน 311,039 ครั้ง
อาณาเขตประเทศไทย
อาณาเขตประเทศไทย

เปิดอ่าน 10,063 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 12,426 ครั้ง
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 14,335 ครั้ง
ปฏิทินศิลปวัฒนธรรมในรอบปี 2552
ปฏิทินศิลปวัฒนธรรมในรอบปี 2552

เปิดอ่าน 12,831 ครั้ง
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2

เปิดอ่าน 15,921 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ

เปิดอ่าน 9,414 ครั้ง
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม

เปิดอ่าน 19,110 ครั้ง
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน

เปิดอ่าน 13,656 ครั้ง
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
เปิดอ่าน 31,971 ครั้ง
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน
เปิดอ่าน 18,508 ครั้ง
คู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กศจ. (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4) สิงหาคม 2563
คู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กศจ. (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4) สิงหาคม 2563
เปิดอ่าน 10,362 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
เปิดอ่าน 34,465 ครั้ง
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ