ครูบ้านนอก

รายงานการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เรื่อง “อาเซียนน่ารู้” เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 6 เรื่อง คือ (1) บทที่ 1 เรื่อง ASEAN Community in Brief (2) บทที่ 2 เรื่อง Languages of ASEAN Countries (3) บทที่ 3 เรื่อง ASEAN Culture (4) บทที่ 4 เรื่องNational Dishes of ASEAN (5) บทที่ 5 เรื่อง Sightseeing in ASEAN (6) บทที่ 6 เรื่อง ASEAN Costume

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและตรวจสอบประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เรื่อง “อาเซียนน่ารู้” เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 75/75 2) ศึกษาประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย ตามเกณฑ์ดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ร้อยละ 50

3) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย 4) ศึกษาเจตคติของนักเรียนต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เรื่อง “อาเซียนน่ารู้” เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ห้องเรียน 40 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ซึ่งเป็นนักเรียนที่เรียนรายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหัสวิชา อ 23101 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย เรื่อง “อาเซียนน่ารู้” เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนและแบบสอบถามวัดเจตคติในการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test

ชนิด Dependent Samples ผลการวิจัย พบว่า

1. ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ

เท่ากับ 84.80/89.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 75/75

2. ประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีดัชนีประสิทธิผล

ร้อยละ 71

3. ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียน

คอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. เจตคติของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดีย หลังเรียน

สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 33,624 ครั้ง พยาธิเส้นด้าย	เปิดอ่าน 12,552 ครั้ง ท็อป 10 ยอดศิลปินของตลาดโลก	เปิดอ่าน 4,509 ครั้ง ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
เปิดอ่าน 14,701 ครั้ง ทำไมต้องจ้างทำการบ้าน (ชมคลิป)	เปิดอ่าน 24,459 ครั้ง วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 18 ส.ค.	เปิดอ่าน 12,162 ครั้ง แสงส่องทางจากการศึกษา
เปิดอ่าน 21,241 ครั้ง คลอสตริเดียม โบทูลินัม เชื้อโรคร้ายในอาหารกระป๋อง	เปิดอ่าน 52,834 ครั้ง ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ “โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้” เต็มรูปแบบ	เปิดอ่าน 14,965 ครั้ง ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก
เปิดอ่าน 12,941 ครั้ง กิจกรรมวันสงกรานต์	เปิดอ่าน 11,633 ครั้ง โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย	เปิดอ่าน 18,731 ครั้ง ดอกไม้ 5 ชนิด พิชิตโรค
เปิดอ่าน 21,722 ครั้ง เมื่อเทคโนโลยีล้างสมองเด็ก อะไรจะเกิดขึ้น?	เปิดอ่าน 11,590 ครั้ง ชมคลิป เลขาฯกพฐ.เผยผลคัดเลือก ผอ.และรอง ผอ.โรงเรียนและการสอบครูผู้ช่วยกรณีเศษ	เปิดอ่าน 10,654 ครั้ง ปริญญาโทกับคนทำงาน .สำคัญจริงหรือ?

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory