ชื่อเรื่อง : รายงานการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา นายวุฒิชัย บุญณมี
ปีการศึกษา : 2559
บทคัดย่อ
รายงานการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านหินลาด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น 0.82 แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน และคู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานและวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย (x̄ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (sd ) ค่าประสิทธิภาพ ( e1/e2 ) และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาโดยสรุป มีดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด มีประสิทธิภาพ (e1 /e2 ) เป็น 87.73/86.80 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.40