บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยเทียบกับเกณฑ์ของโรงเรียนร้อยละ 65 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนชุมชนบ้านคุริง (มิตรภาพที่ 25) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพรเขต 1 จำนวน 20 คน ได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Samping) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 แผน โดยใช้เวลาแผนละ 1 ชั่วโมง รวมเวลาที่ใช้สอน 18 ชั่วโมง บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยวิเคราะห์ข้อมูลหาประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ที่มีความเชื่อมั่น 0.91 โดยการเปรียบเทียบร้อยละของคะแนนและเปรียบเทียบโดยการใช้สถิติแบบ t-test แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจำนวน 15 ข้อ กำหนดข้อมูลตัวชี้วัดโดยใช้เกณฑ์ พอใจมากที่สุดพอใจมาก พอใจปานกลาง พอใจน้อย พอใจน้อยที่สุด ผู้วิจัยได้นำเสนอข้อมูลที่ได้จากการทดลองมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการศึกษาสรุปดังนี้
1. ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยภาพรวมมีค่า 85.50 / 90.06 เมื่อพิจารณาเป็นเรื่องพบว่าเรื่องที่ 1- 8 มีค่า เท่ากับ 86.67/87.80 84.94/87.80 82.36/89.20 82.50/89.20 82.50/89.30 87.37/89.30 87.37/89.30 88.57/90.70 88.57/89.20 และ 82.80 / 90.00ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ผลของการศึกษาคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนพบว่าคะแนนหลังเรียน
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีคะแนนเฉลี่ย 23.73 (S.D.=2.43) คิดเป็นร้อยละ 79.10 ซึ่งสูง
กว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนตั้งไว้ร้อยละ 65 และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ
นักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่ามีคะแนนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยค่าเฉลี่ย
คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ( = 22.64, S.D. = 1.98) สูงกว่าก่อนเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ( = 9.50 ,S.D. = 2.06) แสดงให้เห็นว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนชุมชนบ้านคุริง ( มิตรภาพที่ 25 ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพรเขต 1 ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มมากขึ้น
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการบวก ลบและคูณทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด ( =4.50 , =.41) หากพิจารณาเป็นรายข้อนักเรียนมีความพึงพอใจมากเป็นสามอันแรกคือนักเรียนไม่รู้สึกอายเพื่อนเมื่อตอบคำถามผิด ( =5.00 , =.00 ) รองลงมาคือบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนช่วยให้นักเรียนสามารถฝึกทักษะและทบทวนเนื้อหาได้ดี ( =4.71 , =4.60 ) และนักเรียนมีความสนุกสนานกับการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและนักเรียนชอบเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ( =4.64 , =4.59 ) ตามลำดับ