ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทสรุปรายงานการประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์และคุณภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนในกทม.(ศน.ศ

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

ศน.ศรันย์ ชัยวงษา

หน่วยศึกษานิเทศก์ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร

การประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์และคุณภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการประเมินดังนี้ 1) เพื่อประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) ปัจจัยเบื้องต้น (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Product) ของโครงการ 2) เพื่อประเมินผลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ 3) เพื่อศึกษาความก้าวหน้าของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จากการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2556 – 2558 4) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมินโครงการ ในด้านผลผลิต ระหว่างก่อนและหลังดำเนินโครงการ 5) เพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินโครงการ 6) เพื่อรายงานผลกระทบของโครงการที่มีต่อนักเรียนและครูผู้สอน โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) เป็นรูปแบบและแนวทางในการกำหนดโครงสร้างการประเมินโครงการ ซึ่งประกอบด้วยการประเมิน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสภาวะแวดล้อม (Context) ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input) ด้านกระบวนการ (Process) และด้านผลผลิต (Product)

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน และนักเรียน ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 100 โรงเรียน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,532 คน จำแนกออกได้ดังนี้ 1) ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 205 คน จากประชากรจำนวน 438 คน 2) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จำนวน 306 คน จากประชากรจำนวน 1,510 คน 3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 380 คน จากประชากรจำนวน 35,234 คน 4) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 369 คน จากประชากรจำนวน 9,652 คน 5) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 272 คน จากประชากรจำนวน 924 คน ซึ่งสุ่มมาโดยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยตารางเคร็จซี่; และมอร์แกน และใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified random sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบบันทึกข้อมูลสภาวะแวดล้อมของโครงการ จำนวน 1 ฉบับ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมภายนอก (External Environment) 2) แบบบันทึกข้อมูลปัจจัยนำเข้าของโครงการ จำนวน 1 ฉบับ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ปัจจัยนำเข้า ซึ่งเป็นสภาวะแวดล้อมภายใน (Internal Environment) 3) แบบประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์และคุณภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ แบบประเมินด้านสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation) และการประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) จำนวน 1 ฉบับ และแบบประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) จำนวน 1 ฉบับ และแบบประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) จำนวน 1 ฉบับ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์และคุณภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร และเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสำรวจข้อมูล สัมภาษณ์ สอบถามความต้องการและความคิดเห็น และประเมินระดับการดำเนินการ โดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการประเมินการดำเนินโครงการในด้านผลผลิต ระหว่างก่อนและหลังดำเนินโครงการ ด้วยสถิติทดสอบค่าเฉลี่ย (t – test) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปทางสถิติ ผลการประเมินโครงการสรุปได้ดังนี้

ผลการประเมินโครงการ

1. ผลการประเมินสภาวะแวดล้อม (Context) ปัจจัยเบื้องต้น (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Product) ของโครงการ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ผลการประเมินอยู่ในระดับมากทุกด้าน ยกเว้นเพียงด้านเดียวที่อยู่ในระดับมากที่สุด คือ ด้านสภาวะแวดล้อม (Context) และด้านที่อยู่ในระดับมากเป็นอันดับสุดท้าย คือ ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input)

2. ผลการประเมินการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ พบว่า ผลรวมการประเมินด้านความพึงพอใจ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 คิดเป็นร้อยละ 91.20 ผลรวมการประเมินด้านความรู้ความเข้าใจ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 คิดเป็นร้อยละ 91.40 ผลรวมการประเมินด้านการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 คิดเป็นร้อยละ 92.80 สรุปว่า ผลการประเมินโดยรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59 คิดเป็นร้อยละ 91.80

3. ผลการศึกษาความก้าวหน้าของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จากการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2556 – 2558 พบว่า ร้อยละของคะแนนการทดสอบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ต่ำกว่าคะแนนระดับประเทศ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 – 2558 โดยคะแนนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีพัฒนาการสูงขึ้นทุกปีการศึกษา ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีพัฒนาการระหว่างปีการศึกษา 2556 – 2558

4. ผลการเปรียบเทียบผลการประเมินโครงการ ในด้านผลผลิต คือ คุ้มค่าของผลจากการดำเนินโครงการ ประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของครูผู้สอน ประสิทธิภาพการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียน และคุณภาพผู้เรียน ระหว่างก่อนและหลังดำเนินโครงการ พบว่า ผลการประเมินโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณารายผลผลิต พบว่า ผลการประเมินของผู้ประเมินทุกผลผลิตแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และจากค่าเฉลี่ย พบว่า หลังดำเนินโครงการสูงกว่าก่อนดำเนินโครงการทุกผลผลิต

5. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินโครงการ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผลการประเมินอยู่ในระดับมากทุกด้าน

6. ผลกระทบของโครงการที่มีต่อนักเรียนและครูผู้สอนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร สรุปว่า ผลจากการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ส่งผลให้โรงเรียน ครูผู้สอน และนักเรียนได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติต่าง ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

โพสต์โดย NT0910 : [31 พ.ค. 2559 เวลา 22:48 น.]
อ่าน [4127] ไอพี : 171.6.217.96
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,131 ครั้ง
วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็วจนใคร ๆ ก็ต้องทัก
วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็วจนใคร ๆ ก็ต้องทัก

เปิดอ่าน 31,837 ครั้ง
ตำนานกระต่ายในดวงจันทร์
ตำนานกระต่ายในดวงจันทร์

เปิดอ่าน 15,513 ครั้ง
แบบออกกำลังพื้นฐาน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 10
แบบออกกำลังพื้นฐาน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 10

เปิดอ่าน 21,948 ครั้ง
ความหมายของมัลติมีเดีย
ความหมายของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 17,057 ครั้ง
คุณครอบครองลูกได้กี่ปี? ทุกๆปีสำคัญขนาดไหน? อ่านดูแล้วรู้เลยว่าทุกเวลามีค่าขนาดไหน!
คุณครอบครองลูกได้กี่ปี? ทุกๆปีสำคัญขนาดไหน? อ่านดูแล้วรู้เลยว่าทุกเวลามีค่าขนาดไหน!

เปิดอ่าน 11,796 ครั้ง
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ

เปิดอ่าน 16,276 ครั้ง
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด

เปิดอ่าน 15,635 ครั้ง
เพลงประจำอาเซียน
เพลงประจำอาเซียน

เปิดอ่าน 21,189 ครั้ง
PHP Multi Elearning II
PHP Multi Elearning II

เปิดอ่าน 17,453 ครั้ง
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (อินโดนีเซีย)
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (อินโดนีเซีย)

เปิดอ่าน 139,372 ครั้ง
จำนวนครูเกษียณอายุราชการ และความต้องการครู แยกตามสาขาวิชา
จำนวนครูเกษียณอายุราชการ และความต้องการครู แยกตามสาขาวิชา

เปิดอ่าน 55,893 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการชักธงชาติในสถานศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการชักธงชาติในสถานศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561

เปิดอ่าน 93,572 ครั้ง
ทำไมหิงห้อยจึงมีแสง
ทำไมหิงห้อยจึงมีแสง

เปิดอ่าน 9,004 ครั้ง
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์

เปิดอ่าน 9,823 ครั้ง
ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างไร จึงถูกใจประชาชน โดย ดร.ดำรงค์ ชลสุข
ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างไร จึงถูกใจประชาชน โดย ดร.ดำรงค์ ชลสุข

เปิดอ่าน 7,758 ครั้ง
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์
เปิดอ่าน 10,930 ครั้ง
5 วิธีดี ๆ ที่ช่วยให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก
5 วิธีดี ๆ ที่ช่วยให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก
เปิดอ่าน 28,976 ครั้ง
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์
เปิดอ่าน 13,458 ครั้ง
ลูกบาศก์ของรูบิค
ลูกบาศก์ของรูบิค
เปิดอ่าน 10,724 ครั้ง
กลั้นปัสสาวะ เรื่องธรรมดาที่น่ากลัว
กลั้นปัสสาวะ เรื่องธรรมดาที่น่ากลัว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ