ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้ศึกษา นางจุฬาลักษณ์ พนาลิกุล
ปีที่ศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/11 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนพยัคฆภูมิวิทยาคาร อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 หน่วย ที่ผ่านการประเมินคุณภาพอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.25) 2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จำนวน 8 เรื่อง ที่ผ่านการประเมินคุณภาพอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.90 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.18) 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยาก 0.28-0.79 ค่าอำนาจจำแนก 0.24-0.83 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ 0.33-0.79 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.79 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งเป็น สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิตที่ใช้ในการหาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยาก ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ ttest (Dependent)
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 88.24/84.53 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
กลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่า 0.7014 หมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7014 หรือคิดเป็นร้อยละ 70.14
3. นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI วิชาเทคโนโลยีสื่อประสม (ง30201) เรื่อง ตัดต่อภาพยนตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.08