ผู้วิจัย นางสาวชยาน์ โตวิเศษ
ปีที่ทำ ๒๕๕๙
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑. เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ประกอบด้วย หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ของโครงการ นโยบายของโรงเรียน ๒. เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ ประกอบด้วย บุคลากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และการบริหารจัดการ ๓. เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านกระบวนการ ประกอบด้วย การวางแผนโครงการ การมีส่วนร่วม ขั้นตอนการดำเนินงาน การนิเทศติดตามกำกับ และการประเมินผลในกระบวนการ ๔. เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านผลผลิต ประกอบด้วย การบรรลุวัตถุประสงค์ ความพึงพอใจของนักเรียน การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ระยะเวลา ๒ ปีการศึกษา ระหว่างปีการศึกษา ๒๕๕๗ ถึงปีการศึกษา ๒๕๕๘ ผู้ประเมิน ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษา ๗ คน (ไม่นับผู้แทนครูและผู้บริหาร) คณะครู ๖ คน ผู้บริหาร ๑ คน และนักเรียน ๑๐๒ คน รวมทั้งสิ้น ๑๑๖ คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ใช้แบบประเมิน CIPP MODEL มีจำนวน ๑ ฉบับ จำนวน ๒ ตอน ตอนที่ ๑ สำหรับคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู และผู้บริหาร จำนวน ๕๒ ข้อ ตอนที่ ๒ สำหรับนักเรียน จำนวน ๒๓ ข้อ รวมทั้งสิ้น ๗๕ ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการประเมินโครงการ ดังนี้ แบบวิเคราะห์เอกสารประเมินบริบท และใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยใช้เกณฑ์การแปลผลค่าเฉลี่ย
ผลการวิจัยพบว่า
การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านบริบทหรือสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation ) ของคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู ผู้บริหาร แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ วิเคราะห์ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์โครงการกับนโยบายของโรงเรียน พบว่ามีความสอดคล้องกัน และแบบสอบถามด้านความต้องการจำเป็นของบุคลากรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านบริบทหรือสภาวะแวดล้อม(Context Evaluation ) พบว่า โรงเรียนได้กำหนดหลักการและเหตุผลของโครงการโรงเรียนวิถีพุทธตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามความต้องการจำเป็น โรงเรียนได้กำหนดหลักการและเหตุผลของวัตถุประสงค์สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียน (นโยบายของโรงเรียนสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ) โรงเรียนได้นำหลักไตรสิกขาเป็นฐานในการกำหนดหลักการและเหตุผลของโครงการ การจัดสภาพแวดล้อมของโรงเรียนตามโครงการทำให้รู้สึกสงบร่มเย็น การจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศของโครงการเป็นรูปแบบของพุทธศาสนาอย่างชัดเจน และ โรงเรียนได้เสริมความรู้ความเข้าใจหลักการและเหตุผลรวมทั้งวัตถุประสงค์และนโยบายของโครงการให้แก่คณะครู โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๖, ๔.๕๓, ๔.๕๓, ๔.๕๒, ๔.๕๒ และ๔.๕๒ สามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เป็นการฝึกนักเรียนให้เป็นคนดีมีความประพฤติเรียบร้อย มีวินัย มีความรักความสามัคคีในหมู่คณะ อยู่ในศีลธรรมอันดี และมีคุณลักษณะของนักเรียนที่ดี
๒. การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านด้านปัจจัยเบื้องต้นหรือทรัพยากร (Input Evaluation) ของคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู ผู้บริหาร ได้แก่ ความพร้อมและความเหมาะสมด้านบุคลากรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และการบริหารจัดการ พบว่า จำนวนบุคลากรในการดำเนินงานโครงการมีอย่างเพียงพอ โรงเรียนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการโรงเรียนวิถีพุทธตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและกำหนดบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการได้อย่างชัดเจน ระยะเวลาในการปฏิบัติแต่ละกิจกรรมมีความเหมาะสม และโรงเรียนได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการแก่คณะกรรมการสถานศึกษา คณะครูผู้บริหารและนักเรียนเป็นอย่างดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๗๐, ๔.๕๗, ๔.๕๖ และ ๔.๕๖ สามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ มีความรับผิดชอบ และเข้าร่วมกิจกรรมด้วยความเต็มใจพร้อมทั้งหาและให้วัสดุอุปกรณ์และเงินในการจัดกิจกรรมด้วย การบริหารจัดการเป็นไปแบบมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายทุกกิจกรรม
๓. ประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ของคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู ผู้บริหาร ได้แก่ การวางแผน การมีส่วนร่วม ขั้นตอนการดำเนินงาน การนิเทศติดตามกำกับ และการประเมินผลในกระบวนการ พบว่า โรงเรียนได้ดำเนินงานโครงการตามแผนที่วางไว้ โรงเรียนได้ประสานงานกับบุคคลภายนอกและองค์กรภายนอกทั้งก่อนและเริ่มดำเนินการโครงการ คณะกรรมการได้มีการวางแผนหรือเตรียมการก่อนที่จะเริ่มดำเนินกิจกรรมทุกครั้ง มีการประเมินผลการดำเนินงานโครงการเป็นไปอย่างเป็นระบบ และ คณะกรรมการดำเนินงานได้จัดเตรียมสถานที่ที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมที่ดำเนินโครงการ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๒, ๔.๕๘, ๔.๕๘, ๔.๕๘ และ ๔.๕๗ สามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ มีคณะกรรมการรับผิดชอบการดำเนินงานโครงการ การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นักเรียนมีความรักความรับผิดชอบในการมาโรงเรียน การปฏิบัติกิจกรมต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ เมื่อถึงเวลานักเรียนจะพร้อมใจกันปฏิบัติกิจกรรม ผู้บริหารเอาใจใส่คอยดูแลนิเทศติดตามกำกับ
การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ของนักเรียน ได้แก่ การวางแผน การมีส่วนร่วม ขั้นตอนการดำเนินงาน การนิเทศติดตามกำกับ และการประเมินผลในกระบวนการ พบว่า นักเรียนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในระหว่างการปฏิบัติกิจกรรมของโครงการ นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดการประเมินผลโครงการ โรงเรียนประชาสัมพันธ์โครงการให้นักเรียนได้รับทราบ นักเรียนเข้าร่วมประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจในหลักการ วัตถุประสงค์และการดำเนินงานในกิจกรรมของโครงการ และนักเรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนดำเนินการโครงการโรงเรียนวิถีพุทธตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๐, ๔.๔๗, ๔.๔๗, ๔.๔๗ และ ๔.๔๕ สามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ มีการวางแผนโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มีคณะกรรมการรับผิดชอบการดำเนินงานโครงการ การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เป็นขั้นเป็นตอน นักเรียนเกิดความรักความชอบในการมาโรงเรียน การปฏิบัติกิจกรมต่าง ๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลานักเรียนจะพร้อมใจกันปฏิบัติ มีการบริหารคุณภาพผู้บริหารคอยดูแลให้การนิเทศติดตามกำกับ มีการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาทุกกิจกรรม
๔. การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู ผู้บริหาร ได้แก่ การบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ ความพึงพอใจของนักเรียน และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน พบว่า โครงการทำให้นักเรียนมีวินัยในตนเอง โครงการได้พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์อย่างชัดเจนให้แก่นักเรียน โครงการได้ช่วยเสริมความสามัคคีให้แก่นักเรียนและครู โครงการโรงเรียนวิถีพุทธตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทำให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมศีลธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์มากขึ้น และโครงการทำให้มีบรรยากาศที่ดีเอื้อต่อการพัฒนาด้านการเรียนการสอนและการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนา โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๑, ๔.๕๖, ๔.๕๖, ๔.๕๑ และ ๔.๕๑ สามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านผลผลิต นักเรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีศีลธรรม (ศีล ๕) และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๘ ประการ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียงมุ่งมั่นในการทำงานรักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ
การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านผลผลิต(Product Evaluation) ของนักเรียนได้แก่ การบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ ความพึงพอใจของนักเรียน และการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของนักเรียน พบว่า นักเรียนได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการได้ทำให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โครงการทำให้นักเรียนมีวินัยในตนเองและมีจิตสาธารณะ นักเรียนสามารถนำข้อคิดต่าง ๆ ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการได้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โครงการทำให้นักเรียนได้พัฒนาตนเอง และโครงการมีส่วนช่วยให้นักเรียนได้ข้อคิดจากการนำหลักธรรมในพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๖, ๔.๕๘, ๔.๕๘, ๔.๕๕ และ ๔.๕๕ สามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ผู้เรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีศีลธรรม (ศีล ๕) และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๘ ประการ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ การเรียนรู้มีการพัฒนาและสามาถนำหลักไตรสิกขาไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้