บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้การบวก การลบ
การคูณและการหารทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลแม่สรวย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2
ชื่อผู้ศึกษา : เมทินี เชียงแรง
ปีที่ศึกษา : 2557
การดำเนินการศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วย แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้การบวก การลบ การคูณและการหารทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนอนุบาลแม่สรวย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 20 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้การบวก การลบ การคูณและการหารทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 12 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การบวก การลบ การคูณและการหารทศนิยม จำนวน 1 เล่ม รวม 21 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณและการหารทศนิยม เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.877 และแบบแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วย แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้การบวก การลบ การคูณและการหารทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.893 ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ยร้อยละ และการทดสอบค่าที ( t- test )
ผลการศึกษา
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้การบวก การลบ การคูณและการหารทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 E1/E2 เท่ากับ 86.60/87.08 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้การบวก การลบ การคูณและการหารทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.50 คิดเป็นร้อยละ 88.33 และก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 11.65 คิดเป็นร้อยละ 38.83 ซึ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีร้อยละ 49.50 เมื่อทดสอบค่าที ( t- test ) เท่ากับ 30.421 สรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วย แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้การบวก การลบ การคูณและการหารทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวม ( x̄ = 4.74) ซึ่งเป็นความพึงพอใจในระดับมากที่สุด