ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ศึกษาผลการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องความคล้าย โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาควา

ชื่อเรื่อง ศึกษาผลการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องความคล้าย โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้

แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนน้้าพองศึกษา

ส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25

ผู้วิจัย นายชยพล อุดมผล

ปีที่พิมพ์ 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย เพื่อ1) ศึกษาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องความคล้าย โดยใช้

รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องความคล้าย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ให้มีจ้านวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เฉลี่ยร้อยละ 70 ขึ้นไป และ3) ประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องความคล้าย โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action research) กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนน้้าพองศึกษา จ้านวน 44 คน เนื้อหาที่ใช้วิจัยเป็นเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาค23101 คณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องความคล้าย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระยะเวลาในการวิจัย คือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ใช้เวลาจ้านวน 20 ชั่วโมง

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องความคล้าย โดยใช้รูปแบบการ

จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จ้านวน 9 แผน และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล

ได้แก่ แบบบันทึกผลการปฏิบัติหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ใบกิจกรรม ผลงานผู้เรียน แบบตรวจสอบความเข้าใจ และแบบสังเกตพฤติกรรมการสอนของครูใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data)ในระหว่างการจัดการเรียนรู้ และหลังจากสิ้นสุดการจัดการเรียนรู้ในแต่ละแผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) หลังจากสิ้นสุดการจัดการเรียนรู้ ทั้ง 9 แผน ข้อมูลเชิงคุณภาพ น้าเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการพรรณนาเขียนเป็นความเรียง และข้อมูลเชิงปริมาณ ค้านวณหาค่าเฉลี่ย( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ (%)

น้าเสนอข้อมูลเชิงปริมาณประกอบความเรียง

ผลการวิจัย พบว่า

1. ศึกษาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องความคล้าย โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้

แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีดังนี้

1) ขั้นสร้างความสนใจ ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนด้วยการเล่าเรื่อง ใช้สื่อของจริง

รูปภาพ สื่อ PowerPoint สื่อจากโปรแกรม GSPการใช้ค้าถามที่ท้าทาย มีการคาดเดาและการทบทวนความรู้เดิม นักเรียนทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ

2) ขั้นส้ารวจและค้นหา นักเรียนเรียนรู้ความคิดรวบยอดเรื่องความคล้าย และน้าความรู้เรื่อง

ความคล้ายไปใช้ จากกิจกรรมที่ครูสร้างขึ้น โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มต้องแบ่งหน้าที่กัน แล้วลงมือปฏิบัติจริงมีการลองผิดลองถูก สังเกต แปลความหมายจากสิ่งที่สังเกตได้ จนได้ข้อสรุปเป็นความคิดรวบยอด หรือวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับความคล้าย โดยมีครูเป็นผู้ช่วยเหลือ หรือชี้แนะ เมื่อนักเรียนต้องการความช่วยเหลือ และเตรียมสื่อ อุปกรณ์ ให้เหมาะสม เพียงพอ

3)ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป นักเรียนมีการอภิปราย โต้แย้ง ซักถาม แสดงเหตุผล ประเมิน

ความสมเหตุสมผล และตัดสินใจเลือกความคิดรวบยอดหรือวิธีการแก้ปัญหาภายในกลุ่มจนได้ข้อสรุป และเมื่อน้าเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน ก็จะมีการอภิปรายระดับชั้นเรียน เพื่อสรุปความคิดรวบยอดรวมในประเด็นต่าง ๆ ที่พบจากการปฏิบัติกิจกรรม บางครั้งครูชี้น้าแนวทางสู่ข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้นด้วยการใช้ค้าถาม หรือใช้สื่อ

โปรแกรม GSP

4)ขั้นขยายความรู้ การจัดการเรียนรู้ในขั้นนี้มี 2 ลักษณะคือ นักเรียนแต่ละคนน้าความรู้ที่ได้

จากขั้นสรุปไปใช้แก้ปัญหาที่สอดคล้องกับความรู้นั้น และครูเพิ่มเติมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นหรือ

เสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างไป

5)ขั้นประเมิน ในขั้นนี้ประเมินทักษะ กระบวนการ และเจตคติของนักเรียนด้วยการสังเกต

พฤติกรรมขณะจัดการเรียนรู้ และประเมินความรู้ของนักเรียนในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบ

ตรวจสอบความเข้าใจ

2. ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องความคล้าย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ให้มีจ้านวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70

มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เฉลี่ยร้อยละ 70ขึ้นไป พบว่า นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องความคล้าย ตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป มีจ้านวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 79.55เป็นไปตามความมุ่งหมายของการวิจัย

3. ประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องความคล้าย โดยใช้รูปแบบ

การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องความคล้ายโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ88.33 ของนักเรียนทั้งหมด

โพสต์โดย ชายน้อย : [15 พ.ค. 2559 เวลา 15:27 น.]
อ่าน [4947] ไอพี : 223.206.251.0
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,670 ครั้ง
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์

เปิดอ่าน 15,059 ครั้ง
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร

เปิดอ่าน 41,684 ครั้ง
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?

เปิดอ่าน 100,298 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 17 การเล่นลูกจากประตู
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 17 การเล่นลูกจากประตู

เปิดอ่าน 10,157 ครั้ง
โยคะในรถยามจราจรติดขัด
โยคะในรถยามจราจรติดขัด

เปิดอ่าน 11,995 ครั้ง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง

เปิดอ่าน 24,730 ครั้ง
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"

เปิดอ่าน 48,474 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ก ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ก ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 32,235 ครั้ง
การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน กับ การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา : เจตนารมณ์ ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงและสิ่งที่ได้รับ
การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน กับ การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา : เจตนารมณ์ ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงและสิ่งที่ได้รับ

เปิดอ่าน 26,408 ครั้ง
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก

เปิดอ่าน 13,659 ครั้ง
เคล็ด(ไม่)ลับ
เคล็ด(ไม่)ลับ'หัวกะทิ'

เปิดอ่าน 14,224 ครั้ง
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?

เปิดอ่าน 2,465 ครั้ง
อุตสาหกรรมยุคใหม่ ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง Smart Warehouse
อุตสาหกรรมยุคใหม่ ทำไมต้องเข้าใจเรื่อง Smart Warehouse

เปิดอ่าน 10,157 ครั้ง
ชายวัย 70 ปี เหยียบไข่ 108 ฟองไม่แตก
ชายวัย 70 ปี เหยียบไข่ 108 ฟองไม่แตก

เปิดอ่าน 13,530 ครั้ง
ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน
ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน

เปิดอ่าน 12,073 ครั้ง
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
เปิดอ่าน 20,179 ครั้ง
การวัดระยะบนผิวทรงกลม
การวัดระยะบนผิวทรงกลม
เปิดอ่าน 15,584 ครั้ง
รวมรายชื่อสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา 2507 ถึง 2557
รวมรายชื่อสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ปีการศึกษา 2507 ถึง 2557
เปิดอ่าน 18,136 ครั้ง
อันตราย! ขวดนม 80% มีสารเคมีอันตราย กระทบระบบสืบพันธุ์
อันตราย! ขวดนม 80% มีสารเคมีอันตราย กระทบระบบสืบพันธุ์
เปิดอ่าน 50,271 ครั้ง
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ