|
|
การพัฒนารูปแบบการบริหารหลักสูตรงานอาชีพของโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) เป็นการ วิจัยและพัฒนารูปแบบการบริหารหลักสูตรงานอาชีพ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1-3) โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) สานักการศึกษา เทศบาลนครนครราชสีมา เป็นหลักสูตรงานอาชีพที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญและจัดการเรียนการสอนแบบหลากหลาย โดยทดลองใช้รูปแบบ SPS Model ได้แก่การเรียนรู้แบบวิธีศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง(Search Education)โดยใช้สื่อ อิเล็กทรอนิกส์ และการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ (Professional Projects) รวมทั้งบูรณาการหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง (Sufficient economy) โดยใช้หลักการพึ่งตนเองในการทางานและการแก้ปัญหาจากการ ปฏิบัติจริง การแสวงหาความรู้ และการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทางาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
1 เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารหลักสูตรงานอาชีพโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย)
2. เพื่อหาประสิทธิผลของหลักสูตรงานอาชีพระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย)
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างในขั้นการสารวจความต้องการของ ท้องถิ่น ได้แก่ ครูหัวหน้าสายชั้นและหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ 10 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พื้นฐาน 5 คน ผู้นาชุมชนจานวน 3 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 5 คน นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น 5 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) กลุ่มตัวอย่างในขั้นการ ทดลองใช้หลักสูตร ได้แก่ 1) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) จานวน 32 คน โดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ครูหัวหน้างานวิชาการ ครูหัวหน้าฝุายมัธยมศึกษา ตอนต้น ครูหัวหน้ากลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี 3 คน โดยเลือกแบบเจาะจง ดาเนินการจัดทาหลักสูตร งานอาชีพและทดลองใช้หลักสูตรงานอาชีพภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 ณ ห้องประชุมโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) 2) คณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) สุ่มแบบเจาะจง โดยพิจารณา จากอาชีพที่หลากหลาย จานวน 5 คน โดยการประชุม ณ ห้องประชุมโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) 3) ผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) จานวน 5 คน สุ่มแบบ เจาะจง โดยพิจารณาจากผู้ปกครองของนักเรียนที่อยู่ในตาบลในเมือง 4) นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียน เทศบาล ๒ (วัดสมอราย) ปีการศึกษา 2557 จานวน 5 คน สุ่มแบบเจาะจงโดยพิจารณาจากนักเรียนที่อยู่ใน ตาบลในเมือง และมีผู้ปกครองเป็นกลุ่มตัวอย่าง จานวน 5 คน 5) ผู้นาชุมชน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบ เจาะจง (Purposive sampling) โดยพิจารณาจากการเป็นประธานชุมชน 3 คน คือ ประธานชุมชนเสาธงสมอ ราย ประธานชุมชนสุระวิชัย และประธานชุมชนสามแยกปักธงชัยเทคนิคและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นวิเคราะห์ความต้องการของท้องถิ่นนี้ใช้วิธีการประชุม และสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม (Focus group interview) ซึ่งใช้วิธีการดาเนินการในลักษณะเดียวกับการสนทนากลุ่ม (Focus group discussion) โดยผู้วิจัยเป็นผู้สัมภาษณ์ด้วยตนเอง กาหนดแนวทางคาถามในการสัมภาษณ์เป็น กรอบในการศึกษาความต้องการของท้องถิ่น ในเรื่องของงานอาชีพด้านวัฒนธรรมไทยที่ควรอนุรักษ์และ สามารถนาเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพได้ ให้ครูผู้สอนงานอาชีพระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นผู้จด บันทึกการประชุมและการสัมภาษณ์ เพื่อสรุปผลและเขียนรายงาน
ผลการวิจัย พบว่า ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของ นักเรียนที่เรียนตามหลักสูตรงานอาชีพ ได้แก่ งานขนมไทย ขนมอบ (เบเกอรี่) งานประดิษฐ์ช่างตัดสติ๊กเกอร์ ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ช่างไฟฟูา พบว่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนมีค่าเท่ากับ21.53และคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน มีค่าเท่ากับ 8.32 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญที่ ระดับ .01 (ค่า sig=.000) แสดงให้เห็นว่า ก่อนเรียนนักเรียนขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของงานอาชีพ ต่อเมื่อนักเรียนได้เรียนรู้ตามหลักสูตรงานอาชีพโดยครูผู้สอนงานอาชีพใช้ SPS Model ประกอบด้วย การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง (Search Education) การทาโครงงานอาชีพ (Professional Projects) และบูรณาการแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficient economy) ซึ่งเป็นการพัฒนารูปแบบ การบริหารหลักสูตรที่ผู้วิจัยคิดขึ้นใหม่ และให้ครูผู้สอนงานอาชีพทดลองใช้หลักสูตรงานอาชีพของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จึงทาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสาคัญที่ระดับ .01 แสดงให้เห็น ว่าการกาหนดเนื้อหาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ได้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน จึงเป็นปัจจัยสาคัญอย่างหนึ่งที่จะทาให้ การเรียนรู้ของผู้เรียนได้ผลมากหรือน้อยเพียงใด เนื้อหาสาระที่กาหนดในหลักสูตรงานอาชีพของระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นจะสนองตอบต่อความต้องการของผู้เรียน และฝุายวิชาการของโรงเรียนได้รูปแบบการ พัฒนาหลักสูตรงานอาชีพที่เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียน ครูผู้สอนงานอาชีพก็จะได้ รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรงานอาชีพที่จะใช้พัฒนาการจัดการเรียนรู้งานอาชีพต่อไป
|
โพสต์โดย kroopor : [9 พ.ค. 2559 เวลา 12:53 น.] อ่าน [5508] ไอพี : 49.229.107.209
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 7,194 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,557 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,374 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,389 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,417 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,218 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,913 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,624 ครั้ง
| เปิดอ่าน 204,346 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,295 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,030 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,020 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,261 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,989 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,217 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 9,905 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,849 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,525 ครั้ง
| เปิดอ่าน 76,118 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,131 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|