ชื่อเรื่อง แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อควมเข้าใจโดยใช้ผังโยง
ความสัมพันธ์ความหมาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย บานบุรี นิวัฒนุวงค์
สถานศึกษา โรงเรียนวัดหนองตะครอง ปีที่พิมพ์ 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1)เพื่อพัฒนาแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมาย 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมาย และ 4) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมาย
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดหนองตะครอง อำเภอกระสัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมาย จำนวน 7 ชุด 2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบ การจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 21 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ (E1/E2) ค่าดัชนีประสิทธิผล ( E.I. ) ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทางสถิติโดยใช้ค่าสถิติที (t test )
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมายทั้ง 7 หน่วยเท่ากับ 281.00 คิดเป็นร้อยละเท่ากับ 80.29 และมีประสิทธิภาพของผลลัพธ์ โดยคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 24.53 คิดเป็นร้อยละ 81.78 ดังนั้นจะพบว่าประสิทธิภาพขอแบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมาย ( / ) มีประสิทธิเท่ากับ 80.29/81.78 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมาย พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (t = 35.461)
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้ผังโยงความสัมพันธ์ความหมาย มีความก้าวหน้าที่ ร้อยละ 71.60
4. นักเรียนมีระดับความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะทางการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษ รวมมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.69, S.D. = 0.51)
ข้อเสนอแนะจากการวิจัย คือ ผู้สอนควรมีการปฐมนิเทศนักเรียนให้เข้าใจขั้นตอนการใช้แบบฝึกทักษะการสื่อสาร รายวิชาภาษาอังกฤษ ตลอดจนการใช้แบบฝึกทักษะ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้กลวิธีการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เหมาะสมก่อนเริ่มทำการสอน นอกจากนั้นผู้สอนควรเลือกข้อทดสอบหรือแบบฝึกหัดที่ไม่ยากมากนัก เหมาะสมกับวัย คำที่นำมายกตัวอย่างเหมาะสมกับนักเรียน นักเรียนสามารถเจอคำศัพท์หรือบริบทเหล่านั้นในชีวิตประจำวันด้วย และชื่อเรื่องควรสอดคล้องกับเนื้อหา เพื่อให้นักเรียนสามารถคาดเดาล่วงหน้าได้ และ ในการเรียนการสอน ผู้สอนควรกระตุ้นนักเรียนที่มีความสามรถทางการเรียนที่ดีกว่าให้ช่วยเหลือนักเรียนที่มีความสามารถทางการเรียนต่ำ และใช้กระบวนการกลุ่มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้