ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการพูดและการเขียน
ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โดยใช้นิทานพื้นบ้านภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางสาวสาลินี แสนสุข
สาขาวิชา ภาษาอังกฤษ
สถานศึกษา โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
ปีที่ศึกษาค้นคว้า ปี พ.ศ. 2558
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสฝึกทักษะอย่างเป็นระบบที่เน้นกระบวนการทางการเรียนรู้ และส่งเสริมให้เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงอย่างสมดุลและมีความสุขจนเกิดทักษะความชำนาญทางการเรียนรู้จะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนสูงขึ้น ดังนั้นการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนภาษาอังกฤษโดยใช้นิทานพื้นบ้านภาษาอังกฤษ 2) เพื่อพัฒนาทักษะการพูดและการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนภาษาอังกฤษโดยใช้นิทานพื้นบ้านภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ปีการศึกษา 2558 จำนวน 50 คน ได้มาโดยการเลือกสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียน จากนักเรียน 5 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ คือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ นิทานพื้นบ้านภาษาอังกฤษ จำนวน 5 แผน 20 ชั่วโมง แบบวัดความสามารถทางการพูดภาษาอังกฤษ แบบวัดความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ ขั้นตอนการพัฒนาประกอบด้วยการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนการสอน การดำเนินการเรียนการสอนโดยใช้นิทานจำนวน 5 แผน ๆ ละ 4 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 สัปดาห์ การวัดความสามารถทางการพูดภาษาอังกฤษ และวัดความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนหลังการสอนแต่ละแผน และการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการสอนสิ้นสุดลง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐาน t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. ทักษะการพูดภาษาอังกฤษหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้นิทานพื้นบ้านภาษาอังกฤษพัฒนาขึ้นเกินร้อยละ 50 ตั้งแต่การสอนครั้งที่ 1 และพัฒนาขึ้นทุกครั้งในการจัดการเรียนการสอน 5 ครั้ง
3. ทักษะการเขียนภาษาอังกฤษหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้นิทานพื้นบ้านภาษาอังกฤษพัฒนาขึ้นเกินร้อยละ 50 ตั้งแต่การสอนครั้ง 2 และค่อยพัฒนาขึ้นทุกครั้งในการจัดการเรียนการสอน 5 ครั้ง