ครูบ้านนอก

เรื่อง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การดูแลสุขภาพและป้องกัน

โรค สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นายยงยศ ศิริสัมพันธ์

ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อทดลองใช้เอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงเอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชนวัดเกยไชยเหนือ อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 21 คน ทดลองใช้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 แบบแผนการทดลอง คือ One Group Pretest - Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) เนื้อหาที่มีปัญหาและมีความต้องการใช้เอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ คือ เรื่อง การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 82.73/82.11 3) นักเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,731 ครั้ง กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)	เปิดอ่าน 20,428 ครั้ง ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"	เปิดอ่าน 8,894 ครั้ง ปิดตำนาน Geocities ผู้แพ้ในโลกอินเตอร์เน็ต
เปิดอ่าน 14,263 ครั้ง เกิดทันไหม ประกาศผลเอ็นทรานซ์ ยุคเริ่มแรกและ ยุคปี 2530	เปิดอ่าน 35,949 ครั้ง ผลศึกษา45ผักพื้นบ้าน ต้านมะเร็ง-กินแล้วไม่อ้วน	เปิดอ่าน 11,997 ครั้ง การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล
เปิดอ่าน 13,157 ครั้ง 4 คุณสมบัติหลัก ที่ Netbook ควรมี	เปิดอ่าน 13,447 ครั้ง อึ้ง! คลิปเด็กรัสเซียเตะครู	เปิดอ่าน 7,604 ครั้ง ธอส.เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี พิมพ์เขียว แบบ "บ้านรักษ์โลก" งบไม่เกิน 1-2 ล้าน
เปิดอ่าน 8,791 ครั้ง แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา	เปิดอ่าน 18,984 ครั้ง ปัญหาเรื่องตา ในผู้ป่วยเบาหวาน	เปิดอ่าน 18,068 ครั้ง 5 กิจวัตรที่คนประสบความสำเร็จมักทำก่อน 8 โมงเช้า
เปิดอ่าน 17,534 ครั้ง "แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน	เปิดอ่าน 16,574 ครั้ง สะสมใบสั่งจราจรไว้ จะต่อภาษีรถได้อย่างไร? หลังระบบเชื่อมโยงใบสั่งจราจร เริ่มใช้ 1 ตุลาคม 2562 นี้	เปิดอ่าน 14,185 ครั้ง จดหมายฉบับที่ 79 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถึงเวลาจัดทัพใหม่ด้านคุณภาพการศึกษา

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory