การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน บริบทโครงการ ปัจจัยในการดำเนินงานตามโครงการ กระบวนการดำเนินงานของโครงการ และผลผลิตของโครงการ โดยใช้การประเมินตามรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) ซึ่งเป็นแนวคิดของ สตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) ผู้ให้ข้อมูลเป็นครูและบุคลากร จำนวน 70 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 6 จำนวน 863 คน และผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 6 จำนวน 863 คน การเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตาราง Krejcie และ Morgan ได้กลุ่มตัวอย่างครูและบุคลากรจำนวน 70 คน นักเรียนจำนวน270 คน และผู้ปกครอง จำนวน 270 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน เป็นแบบสอบถามความคิดเห็น และแบบประเมินความพึงพอใจซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความถี่ และค่าร้อยละ
ผลการประเมินโครงการสรุปได้ดังนี้
1. สรุปผลการประเมินด้านบริบทของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 ในด้านบริบทหรือความสอดคล้องกับนโยบาย เป้าหมาย วัตถุประสงค์ ของสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 และนโยบายของโรงเรียนฤทธิณรงค์รอน พบว่า มีความสอดคล้องโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการประเมินปัจจัยในการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 ด้านความเหมาะสมหรือความเพียงพอ เกี่ยวกับบุคลากร งบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ ระยะเวลา ความชัดเจนของแผน / โครงการ และการสนับสนุนจากผู้บริหาร พบว่ามีความเหมาะสมหรือเพียงพอ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการประเมินการปฏิบัติงานตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 ในด้านการวางแผนดำเนินงาน การดำเนินงานตามแผน การควบคุม กำกับ ติดตาม ประเมินผล และการปรับปรุงแก้ไข พบว่ามีการปฏิบัติ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินประเมินผลผลิตของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 ครู นักเรียนและผู้ปกครองมีความคิดเห็นดังนี้
4.1 ด้านความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้ ให้นักเรียนแสวงหาความรู้ด้วย
ตนเอง ตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 พบว่า ครู มีความรู้ความเข้าใจ โดยรวมอยู่ในระดับมาก
4.2 ด้านพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 พบว่า ครูมี การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในระดับมาก
4.3 ด้านทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ของนักเรียน ตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 นักเรียนมี ทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมาก
4.4 ความพึงพอใจของครู นักเรียน และผู้ปกครอง ในการใช้แหล่งเรียนรู้ตามโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้คู่เทคโนโลยี โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน ปีการศึกษา 2558 พบว่า
4.4.1 ครูมีความพึงพอใจต่อการใช้แหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิณรงค์รอนในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดเมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่า ในการใช้แหล่งเรียนรู้การใช้แหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์บ้านหลวงฤทธิณรงค์รอน การใช้แหล่งเรียนรู้ห้องสมุด และการใช้แหล่งเรียนรู้ห้องพระพุทธศาสนา อยู่ในระดับมากที่สุด ตามลำดับ สำหรับความพึงพอใจในการใช้แหล่งเรียนรู้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ อยู่ในระดับมาก
4.4.2 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แหล่งเรียนรู้ของโรงเรียน ฤทธิณรงค์รอนในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจในการใช้แหล่งเรียนรู้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ การใช้แหล่งเรียนรู้ห้องสมุด การใช้แหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์บ้านหลวงฤทธิณรงค์รอนและการใช้แหล่งเรียนรู้ห้องพระพุทธศาสนา อยู่ในระดับมากที่สุดตามลำดับ
4.4.3 ผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการใช้แหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิณรงค์รอนในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่า ผู้ปกครองมีความพึงพอใจในการใช้แหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์บ้านหลวงฤทธิณรงค์รอน ในระดับมากที่สุด มีความพึงพอใจในการใช้แหล่งเรียนรู้ห้องสมุด การใช้แหล่งเรียนรู้ห้องพระพุทธศาสนา และการใช้แหล่งเรียนรู้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ในระดับมาก