ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การอ่านจับใจความ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา นางศุภัชญา จันทะเขตร์
โรงเรียนปรางค์กู่ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28
ที่ปรึกษา นายฤทธา นันทพันธ์ ผู้อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษาศรีสะเกษ เขต 28
นายพงษ์อนันต์ ธรรมศิริ ผู้อ านวยการโรงเรียนปรางค์กู่
กรรมการที่ปรึกษา นางบุญเรือน คูณทวี รองผู้อ านวยการโรงเรียนปรางค์กู่
นางณัฐนภา ต้นงาม หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนปรางค์กู่
ปีที่พิมพ์ 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปรางค์กู่ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล
ไม่ต่ ากว่า .05 (2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การอ่าน
จับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีจ านวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไป กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปรางค์กู่ ที่ก าลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จ านวน
36 คน ตัวแปรต้น คือ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การอ่านจับใจความ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปรางค์กู่
ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปรางค์กู่ สื่อที่ใช้
ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ประกอบด้วย (1) การอ่านจับใจความเพื่อหา
ค าส าคัญ (2) การอ่านจับใจความเพื่อหาประโยคส าคัญ (3) การอ่านจับใจความเพื่อหาแนวคิด
(4) การอ่านในใจเพื่อจับใจความ ระยะเวลาในการด าเนินการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
เครื่องมือในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง การอ่านจับใจความส าคัญ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่า IOC เท่ากับ 1.00 ค่าอ านาจจ าแนก (r)
เท่ากับ .74 และค่าความยากง่าย (p) เท่ากับ .56 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ .87
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐาน คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ 80/80 กล่าวคือ
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.39/82.43 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7299 ซึ่งเป็นไปตาม
เกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน
จับใจความ มีนักเรียนร้อยละ 82.43 มีคะแนนเฉลี่ยจากการท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์สูงกว่า
คะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน โดยมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7299 ซึ่งแสดงว่าการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ช่วยท าให้นักเรียน
มีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 72.99