ชื่องานวิจัย : รายงานผลการใช้การใช้เอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโป่งนก
ชื่อผู้วิจัย : ศิริศักดิ์ อานี
ปีที่ศึกษา : 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาความก้าวหน้าทางการเรียนสาระงานเกษตรของนักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโป่งนก ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียน 24 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 5 เล่ม ได้แก่ เล่มที่ 1 การปลูกผัก เล่มที่ 2 การปลูกพืชไร่ เล่มที่ 3 การปลูกไม้ผล เล่มที่ 4 การปลูก ไม้ดอก และเล่มที่ 5 การเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคในครอบครัว 2) แบบทดสอบก่อน-หลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ฉบับ 3) แบบศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโป่งนก ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ฉบับ
การวิเคราะห์ข้อมูล
ใช้สถิติพื้นฐาน คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย(Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation )
และการทดสอบความก้าวหน้าทางการเรียน (Percentage)
การดำเนินการวิจัย
ผู้วิจัยได้นำเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผ่านการหาประสิทธิภาพแล้วไปใช้กับประชากร โดยดำเนินการดังนี้ ทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน(Pre-test) โดยใช้แบบทดสอบปรนัย จำนวน 30 ข้อ ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ตามแผนการจัดการเรียนรู้เป็นเวลา 20 ชั่วโมง ทำการทดสอบหลังเรียน(Post-test)โดยใช้แบบทดสอบปรนัย จำนวน 30 ข้อ ซึ่งเป็นข้อสอบชุดเดียวกับก่อนเรียน แต่มีการสลับตัวเลือก นักเรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์โดยวิธีการทางสถิติ เพื่อทดสอบสมมติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1) เอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) = 86.90/89.43 เป็นไปตามสมมุติฐานในข้อ 1
2) การศึกษาความก้าวหน้าทางการเรียน โดยการเปรียบเทียบความแตกต่างคะแนนของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนมีอัตราความก้าวหน้าเฉลี่ยโดยรวมคิดเป็นร้อยละ 42.78 โดยคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 14.00 คิดเป็นร้อยละ 46.67 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 26.83 คิดเป็นร้อยละ 89.43 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เท่ากับ 12.83 ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยความก้าวหน้า เท่ากับ 42.78 เป็นไปตามสมมุติฐานในข้อ 2
3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระงานเกษตร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย( )เท่ากับ 4.83 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(σ)เท่ากับ 0.22 เป็นไปตามสมมุติฐานในข้อ 3