ชื่อผู้รายงาน นายอนันต์ กะมินสิน
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วย
การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วย
การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านบ่อแสน จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 11 เล่ม แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการสอนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
จำนวน 11 แผน
แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.42 ถึง 0.76 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.24 ถึง 0.74 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91
แบบสอบถามความพึงพอใจ 1 ฉบับ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.26 ถึง 0.68 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t-test
ผลการศึกษาการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปรากฏผลการศึกษา ดังนี้
1.ประสิทธิภาพของการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ 85.12/85.30 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าดัชนีเท่ากับ 0.7229ผู้เรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 72.29
3. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนด้วยการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค TAI เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.58 ซึ่งมีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก