ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง
อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา นางวนิดา เที่ยงสงค์
โรงเรียน สมเด็จพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24
ปีที่พิมพ์ 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของผู้เรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้น 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของผู้เรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้น และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้น
กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 จำนวน 31 คนจาก 1 ห้องเรียน ได้มาโดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้
คือ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 24 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ จำนวน 8 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก ประกอบด้วยข้อคำถาม 25 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.67 มีค่าความยากตั้งแต่ 0.54 ถึง 0.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับของแบบทดสอบ มีค่าเท่ากับ 0.88 และแบบประเมินความพึงพอใจชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ประกอบด้วยข้อคำถาม 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก 1.96 ถึง 5.48 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.74 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 80.24/78.32 สูงกว่าเกณฑ์
ที่กำหนด (75/75)
2. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้น
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 0.7016
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
อยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสม ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นและมีความพึงพอใจมากที่สุดในการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ดังนั้น แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นจึงสามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม